กู้เงินซื้อคอนโด ธนาคารไหนดี 2025

ปี 2025 เป็นปีที่ “เกมกู้บ้าน–คอนโด” เปลี่ยนไปในทางที่ผู้ซื้อมีอำนาจต่อรองมากขึ้นจากสามแรงหนุนสำคัญ

สารบัญ

  1. กติกา LTV ผ่อนคลายชั่วคราว: ธนาคารแห่งประเทศไทยผ่อนคลายกฎ Loan-to-Value (LTV) ให้กู้ได้ 100% ของมูลค่าหลักประกัน สำหรับสัญญาที่อยู่อาศัยทุกประเภท ตั้งแต่ 1 พ.ค. 2025 จนถึง 30 มิ.ย. 2026 เพื่อพยุงภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว (เดิมกรอบอยู่ราว 70–90%) (Reuters, Bangkok Post)

  2. ค่าธรรมเนียมโอน–จดจำนองลดเหลือ 0.01%: ราชกิจจานุเบกษาให้มีผลตั้งแต่ 22 เม.ย. 2025 ถึง 30 มิ.ย. 2026 สำหรับทรัพย์ที่ราคา/ประเมิน/วงเงินจำนอง ไม่เกิน 7 ล้านบาท (ลดจากอัตราปกติ โอน 2% และจำนอง 1%) ช่วยลดเงินสดวันโอนได้มาก โดยเฉพาะคอนโดระดับแมส (Thai PBS, Tilleke & Gibbins)

  3. แนวโน้มต้นทุนการกู้โดยรวมชะลอลง: ธนาคารพาณิชย์ทยอยปรับ MRR/MLR ลงในไตรมาส 2–3/2025 (เช่น KBank ลด MRR เหลือ 7.03% และ Krungsri ปรับลดอัตรากู้ลงอีกรอบใน ส.ค. 2025) ทำให้แพ็กเกจสินเชื่อบ้านใหม่และรีไฟแนนซ์มีการแข่งขันสูงขึ้น (ธนาคารกสิกรไทย, krungsri.com)

ดังนั้นคำถาม “กู้เงินซื้อคอนโด ธนาคารไหนดี” ในปีนี้ จึงไม่ใช่แค่ใคร “ดอกเบี้ยต่ำสุดปีแรก” แต่ต้องคิดแบบกรณีศึกษา—มอง โครงสร้างอัตรา 3 ปีแรก, ฐานอ้างอิงลอยตัว (MRR/MLR), ค่าธรรมเนียมวันโอน, ความยืดหยุ่น LTV และ เงื่อนไขแคมเปญ (เช่น MRTA/ทำรายการผ่านแอป/ลูกค้าเงินเดือน) เพื่อให้ Total Cost of Ownership ต่ำและความเสี่ยงอัตราลอยตัวรับได้

5 ตัวชี้วัดก่อนเลือกธนาคาร

  1. Effective Rate 3 ปีแรก – เพราะช่วงนี้กระทบกระแสเงินสดมากที่สุด (หลายแบงก์ทำ fixed/step rate 3 ปีแรก)

  2. ฐานลอยตัวหลังปีที่ 4 – ดูว่าอิง MRR/MLR เท่าไร ณ ปัจจุบัน และธนาคารนั้นปรับลงล่าสุดเมื่อไร 

  3. LTV/Top-up – ในช่วงผ่อนคลาย LTV 100% ใครให้เงื่อนไขรวมค่าโอนได้บ้าง (ขึ้นกับวงเงิน/ราคาประเมิน และนโยบายแต่ละสถาบัน) 

  4. ค่าธรรมเนียมวันโอน – ปีนี้ต้นทุนจดทะเบียนลดลงเหลือ 0.01% (ตามเกณฑ์), ลดภาระเงินสดวันโอนมาก โดยเฉพาะผู้ซื้อคอนโดราคาต่ำกว่า 7 ลบ. 

  5. สิทธิพิเศษตามสถานะลูกค้า – ลูกค้าเงินเดือน/Payroll ลูกค้าวิชาชีพเฉพาะ หรือโครงการพันธมิตรกับดีเวลอปเปอร์ มักได้เรตดีกว่าทั่วไป 


10 “กู้เงินซื้อคอนโด” ปี 2025

หมายเหตุ: อัตราและเงื่อนไขแคมเปญปรับเปลี่ยนได้เสมอ—ข้อมูลด้านล่างอ้างอิงหน้าโปรดักต์/อัตรา ณ ช่วงไตรมาส 2–3/2025 เพื่อใช้เป็นกรอบคัดเลือกเบื้องต้น

1) SCB (ไทยพาณิชย์): แพ็กเกจหลากหลาย + สิทธิพิเศษลูกค้าเงินเดือน

  • ภาพรวม: สินเชื่อซื้อบ้าน/คอนโด ผ่อนยาว 30 ปี เลือก fixed/float ได้ มีสิทธิพิเศษ SCB Payroll และวิชาชีพเฉพาะ (EIR ช่วง ~4.57–7.03% ขึ้นกับแพ็กเกจ, MRR ปัจจุบัน 7.025%) (SCB)

  • เหมาะกับ: มนุษย์เงินเดือนที่รับเงินผ่าน SCB หรือผู้ต้องการบริการหลังการขายครบเครื่อง

  • ข้อควรเทียบ: ตาราง EIR ตามเคสจริง, เงื่อนไขซื้อ MRTA/ผลิตภัณฑ์พ่วง

2) KBank (กสิกรไทย): โปรปีแรกต่ำ + แคมเปญโฟกัสสิ่งแวดล้อม

  • ภาพรวม: แคมเปญ “ดอกเบี้ยพิเศษปีแรก 1.99–2.24%” ในบางกลุ่มลูกค้า วงเงินได้สูงสุด 100% และมี “สินเชื่อบ้านสีเขียว” (Eco) เฉพาะช่วง ก.ค.–ก.ย. 2025; MRR 7.03% หลังปรับลด 16 พ.ค. 2025 (ธนาคารกสิกรไทย)

  • เหมาะกับ: ผู้มีรายได้มั่นคง/กลุ่มวิชาชีพเฉพาะ และผู้ซื้อคอนโดที่ต้องการโปรเปิดต่ำปีแรก

  • ข้อควรเทียบ: เงื่อนไขกลุ่มรายได้/อาชีพ และระยะเวลาโปรโมชัน

3) Krungsri (กรุงศรี): ทางเลือกคอนโดเฉพาะทาง + ลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง

  • ภาพรวม: มีหน้าโปรดักต์ “สินเชื่อคอนโด” โดยตรง (คงที่ปีแรกเริ่ม 1.99% ในบางแคมเปญ) และ ประกาศปรับลดอัตรากู้ 0.25% มีผล 18 ส.ค. 2025; หน้าอัตรากู้ปรับปรุงสม่ำเสมอ (MRR ช่วง 7.12% ตามประกาศกลางปี) (krungsri.com)

  • เหมาะกับ: ผู้ซื้อคอนโดมือหนึ่ง/มือสองที่อยากได้ดีลเฉพาะคอนโดและบริการรวดเร็ว

  • ข้อควรเทียบ: เงื่อนไข MRTA/ฟรีค่าจดจำนองตามแคมเปญ

4) Krungthai (KTB): ระยะยาวได้ถึง 40 ปี + โปรดอกเบี้ยเริ่มต้นต่ำ

  • ภาพรวม: สินเชื่อบ้าน/คอนโดโปรพิเศษปีแรก 1.99–2.29% (บางกลุ่ม), วงเงินสูงสุด 100% และผ่อนได้ สูงสุด 40 ปี เหมาะกับการกระจายภาระค่างวดระยะยาว (Krungthai)

  • เหมาะกับ: ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ และผู้ต้องการค่างวดต่ำยาว ๆ

  • ข้อควรเทียบ: EIR รวม 3 ปีแรก เทียบกับแพ็กเกจคงที่/ขั้นบันได

5) Bangkok Bank (BBL): ทางเลือก EIR ตลอดสัญญาค่อนข้างชัด

  • ภาพรวม: “Bualuang Home Loans” ระบุ EIR ทั้งสัญญา ~4.60–5.53% หลายแพ็กเกจ (โครงการพันธมิตร/อาชีพเฉพาะ/รีไฟแนนซ์) ทำให้เทียบภาพรวมได้ตรงไปตรงมา (Bangkok Bank)

  • เหมาะกับ: ผู้ต้องการเห็น EIR ทั้งสัญญาชัด ๆ และซื้อคอนโดจากโครงการพาร์ตเนอร์ธนาคาร

  • ข้อควรเทียบ: เงื่อนไขโครงการพันธมิตร/ระดับรายได้ขั้นต่ำ

6) ttb (ทหารไทยธนชาต): โปรรีไฟแนนซ์โดดเด่น + แพ็กเกจ 3 ปีแรกคงที่

  • ภาพรวม: รีไฟแนนซ์ปีแรก 1.90% และแพ็กเกจสินเชื่อใหม่ระบุคงที่ 3 ปีแรก ~3.30% ในบางโปร (เงื่อนไขขึ้นกับโครงการ/ผลิตภัณฑ์พ่วง) (ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต)

  • เหมาะกับ: ผู้ซื้อคอนโดที่วางแผนรีไฟแนนซ์เร็ว หรือย้ายหนี้จากแบงก์เดิม

  • ข้อควรเทียบ: ค่าปรับปิดภาระ/ค่าใช้จ่ายแฝง และเงื่อนไข Top-up

7) UOB Thailand: เสถียรภาพเอกชนต่างชาติ + EIR ชัดเจน

  • ภาพรวม: UOB Home Loan ระบุ EIR ช่วง ~5.49–6.99% ทั้งสัญญา มีตัวเลือกรีไฟแนนซ์พร้อมหน้าโปรดักต์ภาษาอังกฤษช่วยเทียบเงื่อนไขได้สะดวก (UOB Bank Thailand)

  • เหมาะกับ: ผู้ซื้อคอนโดที่ต้องการ reference EIR ชัด ๆ และลูกค้าที่อาจมีรายได้รูปแบบสากล

  • ข้อควรเทียบ: ค่าประเมิน/ค่าจดจำนอง (แม้ภาครัฐลดแล้ว) และการซื้อ MRTA

8) GHB (ธอส.): แพ็กเกจเพื่อสังคม + ผ่อนได้สูงสุด 40 ปี

  • ภาพรวม: สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ปี 2568 มี step rate 3 ปีแรก (เช่น 2.50%–3.10%–4.00% เมื่อทำประกันตามเงื่อนไข) หลังจากนั้นอิง MRR-0.50% และธอส.ประกาศ ลด MRR ลง 0.25% เหลือ 6.245% กลาง ส.ค. 2025 ช่วยลดดอกหลังปีที่ 4 (ghbank.co.th)

  • เหมาะกับ: ผู้ซื้อคอนโดราคาประหยัด–ปานกลาง และผู้ต้องการผ่อนยาว/เงื่อนไขยืดหยุ่น

  • ข้อควรเทียบ: เงื่อนไขทำประกัน, ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ และกำหนดรับคำขอ

9) GSB (ออมสิน): โปรยาวครอบคลุมปี 2025–2025 ปลายปี

  • ภาพรวม: แคมเปญ “สินเชื่อบ้านออมสินสบายใจ” เปิดยาวถึง 30 ธ.ค. 2025 (หรือจนกว่าวงเงินจะเต็ม) เน้นเข้าถึงได้ง่าย มีโปรดอกเบี้ยพิเศษตามช่วงเวลา/อาชีพที่ธนาคารกำหนดในประกาศแต่ละงวด (GSB)

  • เหมาะกับ: ผู้เริ่มต้นซื้อคอนโดงบไม่เกิน 7 ลบ. ที่ต้องการใช้ประโยชน์ค่าธรรมเนียมลด 0.01%

  • ข้อควรเทียบ: รายละเอียดเรตตามรอบโปรโมชัน/เอกสารรายได้

10) LH Bank: ดีล “คอนโดแนวตั้ง” + กู้ผสม Personal Loan

  • ภาพรวม: ผลิตภัณฑ์ Happy Home Loan ระบุสำหรับ “Vertical (Condo)” โครงสร้างกู้ 90% Housing + 10% Personal (และ MRTA อีกส่วนหนึ่ง) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องวันโอน (ขึ้นกับเงื่อนไข) (lhbank.co.th)

  • เหมาะกับ: ผู้ซื้อคอนโดที่ต้องการวงเงินรวมเกิน 90–95% โดยยอมรับโครงสร้างกู้ผสม

  • ข้อควรเทียบ: EIR รวม (เพราะส่วน Personal Loan มักคิดดอกสูงกว่า Housing Loan)

เทคนิคเลือกแพ็กเกจให้เหมาะกับ “คอนโด” โดยเฉพาะ

  • โครงการพันธมิตร = เรตดีกว่า: ธนาคารมักทำเรตเฉพาะโครงการ (developer partner) เช่น BBL/SCB/KBank ซึ่งจะได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมพิเศษกว่า walk-in ทั่วไป (ตรวจหน้าโปรดักต์และเพจโครงการของธนาคาร) (Bangkok Bank, SCB)

  • EIR ทั้งสัญญา vs Fixed 3 ปีแรก: ถ้าคาดว่าจะ ถือยาว 7–10 ปี เน้นดู EIR ทั้งสัญญา (เช่น BBL/UOB ระบุชัด) แต่ถ้า วางแผนรีไฟแนนซ์ใน 24–36 เดือน ให้จับ “อัตราเฉลี่ย 3 ปีแรก” เป็นหลัก และเตรียมค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์ไว้ล่วงหน้า (Bangkok Bank, UOB Bank Thailand)

  • ใช้ประโยชน์นโยบายรัฐ: ซื้อคอนโดราคา/ประเมิน/จำนองไม่เกิน 7 ล้านบาท จะได้ค่าธรรมเนียมโอน–จำนอง 0.01% ถึง 30 มิ.ย. 2026 ช่วยเซฟเงินสดวันโอนได้มาก (เช่น คอนโด 3.5 ล้าน ค่าโอน + จำนอง รวมเพียงหลักร้อย) (Tilleke & Gibbins)

  • ช่วง LTV 100% ชั่วคราว: เพิ่มอำนาจต่อรองกับแบงก์ แต่ต้องเข้าใจว่า อนุมัติวงเงินจริงยังขึ้นกับความเสี่ยงรายบุคคลรายได้/หนี้ ของผู้กู้ ไม่ใช่สิทธิอัตโนมัติ และธนาคารยังคุมคุณภาพเครดิตเข้มงวด (Reuters)


จุดแข็ง จุดอ่อน “กู้เงินซื้อคอนโด 2025” แยกตามสถาบัน

SCB

  • Strengths: ผลิตภัณฑ์ครบ, สิทธิพิเศษลูกค้าเงินเดือน, เลือก fixed/float ได้หลากหลาย (SCB)

  • Weaknesses: เรตและเงื่อนไขกระจายหลายแพ็กเกจ ต้องเทียบ EIR รายเคส (SCB)

  • Opportunities: LTV 100% และค่าธรรมเนียมลดช่วยยอดโอนคอนโดปีนี้ (Reuters, Tilleke & Gibbins)

  • Threats: ดอกลอยตัวขึ้นลงตาม MRR; ลูกค้าอาจโยกไปรีไฟแนนซ์ที่โพรแรงกว่าใน 2–3 ปี

KBank

  • Strengths: โปรปีแรก 1.99–2.24% สำหรับบางกลุ่ม, แคมเปญ “บ้านสีเขียว”, ลด MRR ล่าสุด (ธนาคารกสิกรไทย)

  • Weaknesses: โปรมีช่วงเวลาและเงื่อนไขกลุ่มรายได้

  • Opportunities: ลูกค้าวิชาชีพเฉพาะ/พรีเมียมได้ดีลโดดเด่น

  • Threats: เมื่อหมดโปรคงที่ ต้องรับมือดอกลอยตัวตาม MRR

Krungsri

  • Strengths: สินเชื่อคอนโดเฉพาะ, เคลื่อนไหวลดดอกเบี้ยตามนโยบายเร็ว (krungsri.com)

  • Weaknesses: ดีเทลโปรหลายชั้น (MRTA/ค่าจดจำนอง/เงื่อนไขโครงการ)

  • Opportunities: ใช้ดีลโครงการพันธมิตรดึงเรตพิเศษ

  • Threats: แข่งราคารุนแรงกับ KBank/SCB ช่วงไตรมาสท้ายปี

Krungthai (KTB)

  • Strengths: ผ่อนได้ยาว 40 ปี, โปรเริ่มต้นต่ำบางกลุ่ม (Krungthai)

  • Weaknesses: EIR ระยะยาวขึ้นกับฐานลอยตัวสูง/ต่ำในอนาคต

  • Opportunities: ลดภาระงวดแรกเข้าถึงง่าย เหมาะผู้เริ่มสร้างเครดิต

  • Threats: หากถือยาวโดยไม่รีไฟแนนซ์ อาจเจอ EIR ระยะยาวสูงกว่าบางราย

Bangkok Bank (BBL)

  • Strengths: ระบุ EIR ทั้งสัญญาชัด, มีแพ็กเกจสำหรับอาชีพเฉพาะและรีไฟแนนซ์ (Bangkok Bank)

  • Weaknesses: โปรเปิดต่ำปีแรกอาจไม่น่าตื่นเต้นเท่าบางแบงก์

  • Opportunities: ลูกค้าที่ถือยาวชอบความโปร่งใส EIR

  • Threats: เสียลูกค้าที่เน้นเรตปีแรกต่ำมาก ๆ ให้คู่แข่ง

ttb

  • Strengths: รีไฟแนนซ์ปีแรก 1.90% เด่น, สินเชื่อใหม่คงที่ 3 ปีแรก ~3.30% บางโปร (ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต)

  • Weaknesses: เงื่อนไขผูกผลิตภัณฑ์/โครงการค่อนข้างจำเพาะ

  • Opportunities: เก็บลูกค้าที่วางแผนรีไฟแนนซ์ภายใน 2–3 ปี

  • Threats: ลูกค้าถือยาวอาจไม่คุ้มเมื่อพ้นช่วงคงที่

UOB

  • Strengths: EIR ชัด (5.49–6.99%), เอกสารภาษาอังกฤษครบ เหมาะลูกค้ารูปแบบรายได้สากล (UOB Bank Thailand)

  • Weaknesses: เรตปีแรกไม่ได้ต่ำมากเท่าคู่แข่งบางราย

  • Opportunities: กลุ่มพนักงานบริษัทข้ามชาติ/รายได้ต่างประเทศ

  • Threats: แข่งขันด้านโปรเปิดต่ำกับแบงก์ไทยใหญ่

GHB (ธอส.)

  • Strengths: Step rate 3 ปีแรกชัด, หลังปีที่ 4 อิง MRR-0.50%, ลด MRR ล่าสุดช่วยลดค่างวดต่อเนื่อง (ghbank.co.th)

  • Weaknesses: ต้องพิจารณาเงื่อนไขประกัน/MRTA

  • Opportunities: กลุ่มผู้ซื้อคอนโดราคาประหยัด–ปานกลางใช้ประโยชน์ค่าธรรมเนียมลด

  • Threats: โควตา/ช่วงเวลารับคำขอแคมเปญ

GSB (ออมสิน)

  • Strengths: แคมเปญยาวถึงปลายปี 2025 (หรือจนเต็มวงเงิน), เข้าถึงได้กว้าง (GSB)

  • Weaknesses: เรตขึ้นกับรอบประกาศ/เงื่อนไขเฉพาะกลุ่ม

  • Opportunities: โฟกัสกลุ่มคอนโดไม่เกิน 7 ลบ. ใช้ค่าธรรมเนียม 0.01%

  • Threats: แข่งกับธอส./KTB ในตลาดแมส

LH Bank

  • Strengths: โครงสร้างกู้ผสมสำหรับคอนโด (90% Housing + 10% Personal) ช่วยแก้เงินสดวันโอน (lhbank.co.th)

  • Weaknesses: ส่วน Personal Loan มักดอกสูงกว่า ทำให้ EIR รวมอาจสูงขึ้น

  • Opportunities: ช่วง LTV 100% + ค่าธรรมเนียมลด ช่วยปิดการขายเร็ว

  • Threats: ลูกค้าอาจเลือกแบงก์ที่ให้ 100% ด้วย Housing Loan ล้วน


กลยุทธ์ “ล็อกต้นทุน–ลดความเสี่ยง” สำหรับผู้ซื้อคอนโดปี 2025

  1. ทำ Pre-approval ก่อนจอง – ใช้เงื่อนไข LTV 100% ต่อรอง developer/รับส่วนลดเพิ่ม

  2. คำนวณงวดด้วย EIR +2% – Stress test ด้วยดอกลอยตัวเผื่อรอบปรับขึ้นในอนาคต

  3. จัดคิวเอกสารให้พร้อม – สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองเงินเดือน/รายการเดินบัญชี 6–12 เดือน เพื่อชิงเรตดีที่สุด

  4. เปรียบเทียบ 3 ข้อเสนอ – อย่างน้อย 2 แบงก์ universal + 1 state bank (เช่น ธอส./ออมสิน) เพื่อเทียบ EIR/ค่าธรรมเนียม

  5. ล็อกวันโอนภายในมาตรการรัฐ – เล็งโอนก่อน 30 มิ.ย. 2026 เพื่อใช้ค่าธรรมเนียม 0.01% ให้คุ้มสุด (Tilleke & Gibbins)

  6. ตั้งปีที่รีไฟแนนซ์ในปฏิทิน – ถ้าเลือกแพ็กเกจคงที่ 3 ปี ให้กำหนดแผนรีไฟแนนซ์ล่วงหน้า 60–90 วัน


Q&A: คำถามยอดฮิตเรื่อง “กู้เงินซื้อคอนโด”

ถาม: ปี 2025 ธนาคารไหนดอกถูกสุด?
ตอบ: “ถูกสุด” ขึ้นกับสถานะลูกค้า/โครงการ/ช่วงเวลา โปรเปิดปีแรกของบางแบงก์ (เช่น KBank/ttb) ต่ำมาก แต่ควรเทียบ EIR 3 ปีแรก และ ฐาน MRR หลังปีที่ 4 ของแต่ละธนาคารด้วย (SCB MRR 7.025%, KBank MRR 7.03% ณ ช่วงกลางปี) แล้วค่อยตัดสินใจ (SCB, ธนาคารกสิกรไทย)

ถาม: ตอนนี้กู้ได้ 100% จริงไหม?
ตอบ: ใช่—เป็น มาตรการชั่วคราว ของ ธปท. ตั้งแต่ 1 พ.ค. 2025 ถึง 30 มิ.ย. 2026 แต่การอนุมัติยังขึ้นกับโปรไฟล์รายได้/หนี้ของผู้กู้และนโยบายความเสี่ยงของแต่ละธนาคาร ไม่ใช่สิทธิอัตโนมัติ (Reuters)

ถาม: ค่าธรรมเนียมโอน–จดจำนองเหลือ 0.01% ทุกกรณีไหม?
ตอบ: เฉพาะ ทรัพย์ราคา/ประเมิน/วงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาท และช่วงเวลา 22 เม.ย. 2025–30 มิ.ย. 2026 เท่านั้น ต้องตรวจสอบคุณสมบัติให้ครบก่อนวันโอน (Tilleke & Gibbins)

ถาม: ถือยาวดีหรือรีไฟแนนซ์หลัง 3 ปีดี?
ตอบ: ถ้าโปรปีแรกต่ำมากและ EIR 3 ปีคุ้ม—วางแผนรีไฟแนนซ์ไว้เลย (เช่นไป ttb รีไฟแนนซ์) แต่ถ้าธนาคารระบุ EIR ทั้งสัญญาดีและบริการหลังบ้านโอเค การถือยาวอาจคุ้มกว่า (มักเห็นบนหน้า BBL/UOB) (ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต, Bangkok Bank, UOB Bank Thailand)

ถาม: เลือกคอนโดมือหนึ่งหรือมือสองอะไรดีกว่าเพื่อให้กู้ง่าย?
ตอบ: มือหนึ่งจากโครงการพันธมิตรแบงก์ มักได้เรต/ค่าธรรมเนียมพิเศษและเอกสาร developer พร้อม แต่ถ้าหามือสองสภาพดีราคาต่อรองได้ ก็อาจถูกกว่าเมื่อรวมค่าธรรมเนียม 0.01% ในช่วงมาตรการรัฐด้วย (Bangkok Bank)


สรุป กู้เงินซื้อคอนโด ที่ไหนดี 2025

  • เงินเดือนเข้าธนาคารนั้น ๆ และต้องการความสะดวก: เริ่มที่ SCB/KBank เพื่อชิงเรตและสิทธิพิเศษ Payroll 

  • อยากได้ EIR ตลอดสัญญาชัดเจน ถือยาว: ดู BBL/UOB เป็นหลัก แล้วค่อยเทียบ SCB/KBank รอบสอง 

  • กู้ยาว งวดต่ำ: พิจารณา KTB/GHB (สูงสุด 40 ปี) และคำนวณ EIR หลังปีที่ 4 ให้ชัด 

  • กู้ 100%/เงินสดวันโอนจำกัด: ใช้ช่วง LTV 100% + ค่าธรรมเนียม 0.01% ให้เต็มที่ เทียบ KBank/Krungsri/SCB และ LH Bank (กู้ผสม) ตามความเหมาะสมของเคส 

  • เน้นรีไฟแนนซ์ไว: ดู ttb เป็นตัวตั้ง แล้วเปรียบเทียบกับ SCB/BBL 


เช็กลิสต์เอกสาร/การบ้านก่อนยื่น “กู้เงินซื้อคอนโด”

  • รายการเดินบัญชี 6–12 เดือน (เน้นบัญชีที่รับเงินเดือน)

  • สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองเงินเดือน, สัญญาจ้าง

  • เอกสารหนี้เดิมทั้งหมด (เพื่อคำนวณภาระผ่อนรวม)

  • ใบจอง/สัญญาจะซื้อจะขายคอนโด, แปลนห้อง, รายการวัสดุ

  • วางแผนวันโอนให้ตกในช่วงมาตรการ 0.01% (ถ้าเข้าเงื่อนไข ≤ 7 ลบ.) (Tilleke & Gibbins)

การจะตอบคำถามว่า “กู้เงินซื้อคอนโด ธนาคารไหนดี” ในปี 2025 ให้เฉียบคม ต้องมอง “ต้นทุนรวม” และ “ความยืดหยุ่นในอนาคต” มากกว่าตัวเลขปีแรก ธนาคารเจ้าตลาดอย่าง SCB/KBank/Krungsri แข่งกันด้วยโปรเปิดและพันธมิตรโครงการ ขณะที่ BBL/UOB ชูความชัดเจนของ EIR ตลอดสัญญา ส่วน KTB/GHB ให้น้ำหนักกับงวดยาว 40 ปี และ ttb เด่นด้านรีไฟแนนซ์เร็ว ในอีกมุมหนึ่ง มาตรการ LTV 100% และ ค่าธรรมเนียม 0.01% ทำให้ปีนี้เป็น “หน้าต่างโอกาส” ของผู้ซื้อคอนโด โดยเฉพาะยูนิตราคาระดับแมส แต่ต้องตัดสินใจด้วยวินัยการเงิน—ทำ pre-approval, เทียบ EIR 3 ปี + หลังปีที่ 4, และจองคิว รีไฟแนนซ์ ล่วงหน้า หากเลือกคอนโดและแพ็กเกจถูกกับโปรไฟล์ คุณจะ “ล็อกต้นทุน–ลดความเสี่ยง” และเป็นเจ้าของคอนโดได้อย่างมั่นใจ