
นอกเหนือจากการเจ็บไข้ได้ป่วยแล้ว ก็คงไม่มีสิ่งใดจะมีความน่ากลัวมากไปกว่าเป็นหนี้ ยิ่งเป็นหนี้ที่ที่เป็นเสีย ซึ่งไม่ได้เกิดจากการลงทุนทั้งด้านธุรกิจและด้านการศึกษาหรือการซื้อที่อยู่อาศัย จะยิ่งทวีความน่ากลัวและความตึงเครียดให้กับประชาชนทุกคนที่เป็นผู้แบกรับภาระนี้ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เป็นยุคที่สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจการค้าทรุดหนัก เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสและการทำธุรกิจแบบพึ่งพาคนอื่นมากเกิน ส่งผลให้ภาวะเป็นหนี้จึงเป็นเหมือนฝันร้ายสำหรับทุกคน ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้มองเห็นปัญหาเหล่านี้ และได้ดำเนินการช่วยเหลือและแก้ไข จึงได้ออกโครงการ “คลินิกแก้หนี้” ขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือและเสริมสร้างระเบียบวินัยทางการเงินที่ดีให้แก่ประชาชน
คลินิกแก้หนี้ คืออะไร
โครงการ คลินิกแก้หนี้ เป็นโครงการที่ริเริ่มโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งเป็นระยะแรกของโครงการ ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย และธนาคารนานาชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อเข้าให้ความช่วยเหลือแก่ผู้หนี้รายย่อยเป็นการบริการที่มุ่งแน่นการแก้ปัญหาของลูกหนี้ ที่มีภาวะหนี้แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันทั้งจาก การกู้สินเชื่อบุคคล ยืมเงินจากบัตรหรือบริการเงินด่วนจากธนาคารอื่น ๆ ให้จบ ครบลงในที่เดียว โดยมอบหมายให้บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เข้าทำหน้าที่ตัวกลางในการติดต่อและเจารจากับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 16 แห่งกับลูกหนี้ทั้งหมด โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ความรู้และความเข้าใจแก่ลูกหนี้ในการวางแผนทางการเงิน และการสร้างวินัยที่ดีทางการเงินเพื่อไม่ให้ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยและกลับไปเป็นหนี้อีกซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งในแก่ประชาชนได้ในระยะยาว

หนี้เสีย คืออะไร
แม้ว่าภาวะหนี้จะฟังดูเหมือนเป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่หนี้ที่ดีก็มีและถือว่าเป็นการลงทุน การสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตในอนาคต เช่น การลงทุนซื้อหุ้น ซื้อทองคำหรือพันธบัตร แม้จะมีความเสี่ยงอยู่บ้างแต่ผลกำไรก็คุ้มค่า หรือการซื้อบ้านที่อยู่อาศัยซึ่งถือเป็นหนี้ก้อนใหญ่มากแต่ก็เป็นหนี้ดีเพราะ เป็นการเสริมสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตครอบครัว และยังสามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่หนี้อื่น ๆ ที่เกิดจากการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หนี้บัตรเครดิต เงินยืมจากบัตร สินเชื้อบุคคลชนิดต่าง ๆ ล้วนเป็นหนี้เสีย เนื่องจากเป็นภาระหนี้ที่เกิดจากการเอาเงินในอนาคตมาใช้และ เป็นการยืมเงินคนอื่นมาใช้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เมื่อเรายืมเงินมา เราต้องคืนครับ
ข้อดีของการเข้าคลินิกแก้หนี้
✅ จุดเด่น | รายละเอียด |
---|---|
รวมทุกหนี้เป็นก้อนเดียว | ผ่อนง่าย ไม่ต้องจ่ายหลายเจ้าในแต่ละเดือน |
ดอกเบี้ยต่ำ | เริ่มต้นเพียง 0–5% ต่อปี ลดภาระดอกเบี้ยได้มากเมื่อเทียบกับหนี้บัตรเดิม |
ไม่ถูกฟ้องหรือยึดทรัพย์ | หากเข้าสู่โครงการก่อนถูกฟ้อง หรืออยู่ระหว่างไกล่เกลี่ย |
ได้รับโอกาสฟื้นประวัติเครดิต | เมื่อผ่อนตามสัญญา จะถูกปรับสถานะเครดิตดีขึ้นตามลำดับ |
มีสิทธิ์ “พักชำระหนี้” กรณีพิเศษ | เช่น กรณีตกงาน รายได้ลด ป่วย หรือได้รับผลกระทบเศรษฐกิจชั่วคราว |
คุณสมบัติผู้สมัครคลินิกแก้หนี้ ปี 2568
-
เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย
-
เป็นหนี้ บัตรเครดิต / สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน เท่านั้น
-
หนี้ค้างชำระมากกว่า 90 วันขึ้นไป (NPL) ก่อนวันที่สมัคร
-
ยอดหนี้รวม ไม่เกิน 2 ล้านบาท
-
ไม่อยู่ระหว่างถูกฟ้องหรือฟ้องแล้วไม่ถึงขั้นบังคับคดี
-
ไม่เคยเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้มาก่อน (กรณีสมัครรอบแรก)
-
มี รายได้ประจำ หรืออาชีพที่สามารถแสดงรายได้ได้จริง
วิธีสมัครคลินิกแก้หนี้ 2568
📌 ช่องทางสมัคร
-
สมัครออนไลน์
-
เข้าเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com
-
กรอกแบบฟอร์มสมัคร และแนบเอกสารออนไลน์
-
-
สมัครผ่านไลน์
-
เพิ่มเพื่อน LINE: @debtclinicbysam
-
กดสมัครตามขั้นตอนและส่งเอกสาร
-
-
สมัครที่ศูนย์ SAM หรือโทรสอบถาม
-
โทร 1443 หรือ 02-610-2266
-
📄 เอกสารที่ใช้สมัคร
-
สำเนาบัตรประชาชน
-
สลิปเงินเดือน/รายได้ล่าสุด หรือสเตตเมนต์ย้อนหลัง 3–6 เดือน
-
เอกสารหนี้ (ใบแจ้งยอดหนี้ หรือหนังสือทวงถาม)
วิธีขอ “พักชำระหนี้” คลินิกแก้หนี้
-
ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ดูแลบัญชีคุณโดยตรง
-
เตรียมเอกสารแสดงเหตุผล เช่น ใบรับรองแพทย์ หนังสือเลิกจ้าง
-
รอพิจารณาภายใน 7–14 วัน
-
หากอนุมัติ สามารถพักเงินต้น หรือดอกเบี้ย ได้ตามกรณีสูงสุด 3–6 เดือน
ข้อควรระวัง
⚠️ สิ่งที่ควรรู้ก่อนสมัคร | รายละเอียด |
---|---|
สมัครแล้วถอนตัวไม่ได้ | หากเข้าสู่กระบวนการและเซ็นสัญญาแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนกลับมาใช้หนี้แบบเดิมได้ |
ไม่สามารถกู้เพิ่มได้ | ขณะอยู่ในโครงการจะไม่สามารถขอสินเชื่อเพิ่มกับสถาบันการเงินใดได้ |
ผิดสัญญาผ่อนต่อ อาจหลุดจากโครงการ | ต้องรักษาวินัยจ่ายหนี้ หากขาดผ่อนนานอาจถูกถอดจากโครงการ |
ข้อมูลเครดิตบูโรยังแสดงหนี้เดิม | แต่จะระบุว่าอยู่ในสถานะ “อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้” |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
คำถาม | คำตอบ |
---|---|
คลินิกแก้หนี้ใช้เวลาดำเนินการนานไหม? | ปกติใช้เวลา 3–4 สัปดาห์ในการตรวจสอบและแจ้งผล |
ต้องใช้ผู้ค้ำประกันหรือหลักทรัพย์ไหม? | ไม่ต้องใช้ |
เป็นหนี้กับหลายธนาคาร สมัครได้ไหม? | สมัครได้ และสามารถรวมทุกเจ้าไว้ในแผนเดียวกัน |
หนี้ที่มีการฟ้องแล้ว สมัครได้ไหม? | สมัครได้ถ้ายังไม่ถูกศาลมีคำสั่งบังคับคดี |
มีรายได้ไม่แน่นอน เช่น ฟรีแลนซ์ สมัครได้ไหม? | สมัครได้ถ้ามีเอกสารแสดงรายได้ชัดเจน เช่น บัญชีเดินรายเดือน หรือสัญญาจ้าง |
สรุป
คลินิกแก้หนี้ 2568 ถือเป็นทางรอดสำหรับคนที่ประสบปัญหาหนี้เสียจากบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ แผนผ่อนยาว และช่วยให้คุณไม่ถูกฟ้องหรือยึดทรัพย์ ขอเพียงคุณมีความตั้งใจและวินัยทางการเงิน ก็สามารถกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง
หากคุณคิดว่า “เริ่มต้นใหม่ยังไม่สาย” คลินิกแก้หนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตการเงินใหม่ที่มั่นคงขึ้นในระยะยาว.
ธนาคารและ non-bank ที่เข้าร่วม
สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ คลินิกแก้หนี้ นั้นมีทั้งที่เป็นธนาคารและเป็นสถาบันการเงินอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีฐานะเป็นธนาคารโดยมีรายชื่อทั้งหมด ดังนี้
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารCIMB Thai
- ธนาคาร ICBC
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารเกียรตินาคิน
- ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารธนชาต
- ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย
- ธนาคารทิสโก้
- ธนาคาร UOB
- ธนาคารทหารไทย
- ธนาคาร CITIBank
- ธนาคารแห่งประเทศจีน
- ธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสิน
รวมทั้ง 17 ธนาคาร
สถาบันการเงินอื่นเข้าร่วมอีก 18 ผลิตภัณฑ์ คือ - เจแคปปิตอล เจมันนี่
- บัตรเครดิต Central The1
- ซัมมิทแคปปิตอล
- สินเชื่อซิตี้คอร์ป
- บัตร Tesco
- นครหลวงแคปปิตอล
- บัตรเครดิตกรุงศรีอยุธยา
- พรอมิส
- เมืองไทยแคปปิตอล
- แมคคาเลกรุ๊พ
- ศักดิ์สยามลิสซิ่ง
- กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์
- บัตร AEON
- บัตรUmay+
- เอเชียเสริมกิจลีสซิ่ง
- สินเชื่อ ITTP
- บัตร A Money

ไขข้อสงสัย
โครงการ คลินิกแก้หนี้ ไม่ใช้โครงการที่บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิทเข้ามาชำระหนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนให้ผู้เข้าร่วมโครงการ แต่บริษัทจะเข้ามาเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้เพื่อให้เกิดการผ่อนปรนและแบ่งเบาภาระการชำระหนี้สินของประชะชนผู้เข้าร่วมโครงการ โดยเฉพาะในช่วงเวลาปัจจุบันที่มีการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจในทุกภาคส่วน ซึ่งโครงการมีแนวทางในการแก้ไขและปรับโครงสร้างหนี้ ลดอัตราดอกเบี้ยให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ โดยการผ่อนปรนการชำระหนี้ในช่วง 6 เดือนแรกและให้คำปรึกษาในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและวางระเบียบทางการเงินใหม่ให้ผู้เข้าร่วมโครงการ เพื่อไม่ให้กลับมาตกอยู่สภาวะนี้อีกครั้ง และในส่วนของผู้เข้าร่วมโรงการที่มีศักยภาพในการชำระหนี้ แม้จะเข้าร่วมโครงการแล้วก็สามารถดำเนินการชำระหนี้ตามปกติได้เพื่อผลประโยชน์ของท่านเอง และโครงการจะคอยให้คำแนะนำและเสนอแนวทางในท่านสามารถ ปลดหนี้ทั้งหมด ได้อย่างรวดเร็ว
คำเตือนและข้อควรระวังจากโครงการ
เนื่องจากโครงการ คลินิกแก้หนี้ เป็นโครงการที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งในขณะนี้มีกลุ่มคนที่จ้องแสวงหาผลประโยชน์จากการเรียกรับค่าดำเนินการหรือการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของโครงการ และมีการสร้างเว็บไซส์ปลอมของโครงการขึ้น เพื่อหลอกลวงประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ ดังนั้น โครงการ “คลินิกแก้หนี้” โดย บสส. จึงใครขอความกรุณาผู้ที่สนใจให้ศึกษารายละเอียดของโครงการและควรตรวจสอบชื่อ ของโครงการว่ามีการสะกดที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะโครงการจะใช้ชื่อ คลินิกแก้หนี้ เท่านั้น ไม่ใช่ คลินิกพักหนี้ คลินิกแก้หนี้ หรือ คลินิกแก้หนี้ และจะไม่มีการเรียกรับค่าดำเนินการใดใดทั้งสิ้นจากการสมัครเข้าร่วมโครงการ ดังนั้นหากมีข้อสงสัยหรือสนใจสมัครโดยติดต่อที่
ติดต่อ
สำนักงานโครงการคลินิกแก้หนี้
333 อาคารเล้าเป้งง้วน 1 ชั้น 12 ซอยเฉยพ่วง ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทร – 0-2610-2266
Call Center 02610-2266
คลินิกแก้หนี้ สาขาเชียงใหม่
109/7 ถนนเชียงใหม่ – ลำปาง ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50300 โทรศัพท์ 053-217-318
คลินิกแก้หนี้ สาขาพิษณุโลก
5/16-17 ถ.สิงหวัฒน์ ต.บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000 โทรศัพท์ 055-259-042-3
คลินิกแก้หนี้ สาขาขอนแก่น
381/46-47 ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000 โทรศัพท์ 043-271-506-9
คลินิกแก้หนี้ สาขาสุราษฎร์ธานี
213/17 ถ.ชนเกษม ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000 โทรศัพท์ 077-910-180-3
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

