
ในปัจจุบัน การใช้งานโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงิน (Prepaid) ยังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของความสะดวกในการควบคุมค่าใช้จ่าย หรือการเข้าถึงบริการที่ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับการเปิดเบอร์รายเดือน (Postpaid) อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานแบบเติมเงินอาจพบปัญหา “ยอดเงินคงเหลือไม่พอ” ในช่วงเวลาที่ต้องการโทรหรือใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างเร่งด่วน ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายต่าง ๆ ต้องพัฒนาบริการ “ยืมเงินค่าโทร” หรือ “ยืมเงินฉุกเฉิน” เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้ต่อเนื่อง
สำหรับบทความนี้ จะเจาะลึกถึงบริการ “ยืมเงิน AIS” ในช่วงปี พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) โดยให้รายละเอียดที่ไม่สรุปย่อ พร้อมตัวอย่างประกอบ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจขั้นตอน เงื่อนไข และวิธีการใช้งานอย่างถ่องแท้ โดยเฉพาะในยอดที่พบว่ามีการสอบถามบ่อย ได้แก่ 20, 60, 80 และ 100 บาท
2.บริการ “ยืมเงิน AIS” หรือ “ให้ยืมนะ”
2.1 ความหมายของบริการ
• บริการ “ยืมเงิน AIS” หรือในบางครั้งอาจเรียกว่า “วัน-ทู-คอล! ให้ยืมนะ” (1-2-Call! Credit Loan) คือบริการที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าระบบเติมเงินของ AIS สามารถขอวงเงินสำรองมาใช้สำหรับการโทร ส่ง SMS หรือสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตได้ทันที เมื่อยอดเงินคงเหลือในเบอร์ใกล้จะหมดหรือไม่พอใช้งาน
• เมื่อลูกค้ายืมเงินเรียบร้อยแล้ว ระบบจะทำการหักคืน (รวมค่าธรรมเนียม) โดยอัตโนมัติ ในครั้งที่มีการเติมเงินรอบถัดไป
2.2 เงื่อนไขการใช้งานเบื้องต้น
1. ต้องเป็นลูกค้าระบบเติมเงิน (Prepaid) ของ AIS และใช้งานต่อเนื่องมาระยะเวลาหนึ่ง (เช่น 90 วัน หรือ 180 วัน ขึ้นกับเงื่อนไขปัจจุบัน)
2. มีประวัติการเติมเงินสม่ำเสมอ และไม่อยู่ในสถานะถูกระงับสัญญาณ
3. ไม่ค้างชำระค่าบริการใด ๆ หรือมีเงื่อนไขในระบบที่บล็อกไม่ให้ยืม (เช่น ยืมค้างเกินจำนวนครั้งที่กำหนด)
4. มีวงเงินหรือสิทธิ์ให้ยืมเพียงพอ ตามที่ระบบพิจารณา (ไม่ใช่ว่าทุกเบอร์จะสามารถยืมได้เท่ากัน)
หมายเหตุ: ในปี 2568 ข้อมูลเงื่อนไขดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของ AIS ผู้ใช้ควรตรวจสอบข้อมูลอัปเดตจากแหล่งทางการของ AIS อีกครั้ง
3. ยืมเงิน AIS 20/60/80/100 บาท กดอะไร (ปี 2568)
3.1 รหัส USSD พื้นฐาน
โดยทั่วไป ผู้ใช้บริการ AIS 1-2-Call! สามารถตรวจสอบ “สิทธิ์” หรือ “ยอดยืม” ที่ตนเองสามารถขอได้ ผ่านการกดโค้ด USSD ที่เป็นมาตรฐานหลัก ได้แก่
• *กด 611# แล้วโทรออก เพื่อเช็กสิทธิ์ว่าระบบอนุมัติให้ยืมได้เท่าไร
• หรืออาจมีอีกโค้ดหนึ่ง เช่น กด 6111# แล้วโทรออก เพื่อเข้าหน้ารายการยืมเงินโดยตรง (ขึ้นกับนโยบายในช่วงเวลานั้น)
หลังจากกดรหัสดังกล่าว ระบบจะมีข้อความ (USSD Menu) เด้งขึ้นมาพร้อมตัวเลือกในการยืมจำนวนเงินตามที่แต่ละเบอร์ได้รับอนุมัติ เช่น 20, 40, 60, 80 หรือ 100 บาท
3.2 ตัวอย่างรหัสเฉพาะสำหรับยืมยอด 20, 60, 80, 100 บาท
แม้ในบางช่วงเวลา AIS จะจัดทำ “รหัสตรง” (Shortcode) สำหรับยืมยอดเงินบางจำนวนโดยเฉพาะ แต่ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามนโยบายและโปรโมชั่น โดยหลักการแล้ว หาก AIS เปิดให้เลือกยืมเป็นจำนวนเฉพาะเจาะจง ผู้ใช้อาจพบรูปแบบการกดดังนี้ (ตัวอย่าง ไม่การันตี ว่าจะใช้ได้ตลอดทุกช่วงเวลา)
• กด 61120# แล้วโทรออก : เพื่อยืม 20 บาท
• กด 61160# แล้วโทรออก : เพื่อยืม 60 บาท
• กด 61180# แล้วโทรออก : เพื่อยืม 80 บาท
• กด 611100# แล้วโทรออก : เพื่อยืม 100 บาท
อย่างไรก็ดี หากกดแล้วไม่ได้รับอนุมัติ อาจเกิดจากเบอร์ของผู้ใช้ไม่เข้าเงื่อนไข หรือระบบได้เปลี่ยนมาใช้เมนู USSD แบบโต้ตอบแทน ผู้ใช้จึงควรกดตรวจสอบสิทธิ์ผ่าน *611# ก่อนเป็นลำดับแรก
4. ขั้นตอนการยืมเงิน AIS แบบละเอียด
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน บทความนี้จะอธิบายขั้นตอนการยืมเงินแบบ “กดรหัส USSD” หรือ “เมนูโต้ตอบบนหน้าจอโทรศัพท์”
1. เช็กสิทธิ์
• กด *611# แล้วโทรออก
• รอข้อความแจ้งผ่านหน้าจอ (USSD) หรือ SMS ว่าสามารถยืมได้กี่บาท และค่าธรรมเนียมเท่าไร
2. เลือกจำนวนเงิน
• หากต้องการใช้เมนูโต้ตอบ กดเลือกตัวเลขตามเมนูที่ปรากฏ (เช่น กด 1 เพื่อยืม 20 บาท, กด 2 เพื่อยืม 50 บาท ฯลฯ) จากนั้นกดส่ง (Send)
• หรือหากมีโค้ดเฉพาะสำหรับจำนวนเงินนั้น ๆ เช่น 61160# แล้วโทรออก ก็ให้กดโค้ดได้เลย
3. ยืนยันการทำรายการ
• เมื่อทำรายการยืมเงินสำเร็จ ระบบจะแจ้งผ่าน SMS แจ้งว่า “คุณได้รับวงเงินยืม xx บาท ค่าธรรมเนียม xx บาท จะหักเมื่อมีการเติมเงินครั้งถัดไป”
• ตรวจสอบยอดเงิน (Balance) ในมือถือของท่านว่าเพิ่มขึ้นตามจำนวนที่ยืมหรือไม่ (กด *121# แล้วโทรออก สำหรับเช็กยอดปกติของ AIS)
4. การคืนเงิน
• ทุกครั้งที่ผู้ใช้งานทำการเติมเงิน ระบบจะหักคืนเงินยืม พร้อมค่าธรรมเนียมทันที
• หากเติมเงินไม่พอ (เช่น เติม 20 บาทแต่ค่าหักรวม 25 บาท) ระบบอาจหักได้เพียงบางส่วน และหักเพิ่มอีกเมื่อเติมเงินครั้งถัดไป หรือไม่อนุมัติให้ยืมครั้งถัดไปจนกว่าจะชำระครบ
5. ตัวอย่างการใช้งานในสถานการณ์จริง
5.1 ตัวอย่างยืม 20 บาท
• นายเอกมีเงินคงเหลือในซิม AIS 1 บาท และต้องการโทรนัดหมายงานด่วน
• นายเอกกด *611# โทรออก ตรวจสอบสิทธิ์ พบว่าสามารถยืมได้ 20 บาท
• นายเอกจึงกด 61120# โทรออก หรือทำตามเมนูที่ปรากฏขึ้นมาใน USSD เพื่อยืม 20 บาท
• ระบบส่ง SMS แจ้งว่า “ยืมเงิน 20 บาท ค่าธรรมเนียม 2 บาท” จากนั้นยอดเงินในซิมจะเพิ่มเป็น 21 บาท (1 บาทเดิม + 20 บาทที่ยืม)
• เมื่อเขาเติมเงินครั้งถัดไป 50 บาท ระบบจะทำการหักคืน 22 บาท (เงินต้น 20 + ค่าธรรมเนียม 2) เหลือ 28 บาทเป็นยอดเงินสุทธิ
5.2 ตัวอย่างยืม 60 บาท
• นางสาวบีต้องสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเสริมราคา 59 บาท แต่ยอดเงินเหลือเพียง 5 บาท
• กด *611# แล้วโทรออก พบว่ายืมได้สูงสุด 80 บาท แต่ต้องการแค่ 60 บาท
• เลือกกด 61160# แล้วโทรออก หรือทำตามเมนู USSD (เช่น กด 2 เพื่อยืม 60 บาท)
• SMS แจ้งยืนยันว่า “ยืมเงิน 60 บาท ค่าธรรมเนียม 3 บาท” ตอนนี้เบอร์ของเธอมีเงินรวม 65 บาท (5 + 60)
• สมัครแพ็กเกจ 59 บาทสำเร็จ เหลือเงิน 6 บาท จากนั้นครั้งต่อไปที่เติมเงิน 100 บาท ระบบจะหัก 63 บาท (60 + 3) เหลือ 37 บาท
5.3 ตัวอย่างยืม 80/100 บาท
• นายซีเป็นคนทำธุรกิจออนไลน์ ใช้โทรศัพท์ทั้งโทร ส่ง SMS และเปิดเน็ตโซเชียลตลอดวัน
• หลังจากตรวจสอบพบว่าเบอร์ของตนสามารถยืมได้สูงสุด 100 บาท
• หากกด 61180# ก็จะได้ 80 บาท หรือ 611100# ก็จะได้ 100 บาทตามสิทธิ์ที่เบอร์รองรับ
• เมื่อยืมแล้ว ก็สามารถนำไปโทรหรือสมัครแพ็กเกจใหญ่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
• ค่าธรรมเนียมจะสูงขึ้นตามวงเงิน เช่น 80 บาทอาจมีค่าธรรมเนียม 5 บาท ส่วน 100 บาทอาจเป็น 6 บาท (ตัวเลขสมมุติซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้)
6. ประเด็นที่ควรคำนึงถึงในปี 2568
1. การเปลี่ยนแปลงของรหัส USSD และเงื่อนไข
• ผู้ให้บริการอาจปรับเปลี่ยนโค้ด วิธีการ หรือวงเงิน ตามกลยุทธ์ทางการตลาดและการกำกับดูแลของภาครัฐ
• ควรติดตามข่าวสารจากหน้าเว็บไซต์ทางการของ AIS, แอปพลิเคชัน myAIS หรือสอบถาม Call Center (หมายเลข 1175) เพื่อยืนยันข้อมูลล่าสุด
2. อัตราค่าธรรมเนียม
• ค่าธรรมเนียมในการยืมแต่ละครั้งอาจแตกต่างกันไป เช่น 2–6 บาท หรือมากกว่านั้น ตามจำนวนเงินที่ยืมและนโยบายโปรโมชัน
• ควรพิจารณาความคุ้มค่าระหว่างจำนวนเงินที่ต้องการยืมและค่าธรรมเนียม รวมถึงเวลาที่จะต้องใช้บริการจริง
3. ผลกระทบต่อการใช้งานครั้งถัดไป
• หากผู้ใช้เติมเงินน้อยกว่าที่ต้องหักคืน อาจทำให้มียอดเงินเหลือไม่เพียงพอสำหรับใช้งานปกติได้ ควรเติมเงินให้พอ หรือเติมเงินมากกว่าจำนวนหนี้คงเหลือทั้งหมดเพื่อให้ใช้งานได้ยาวขึ้น
• หากค้างยืมติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือหลายครั้ง อาจมีผลให้ระบบไม่อนุมัติการยืมในครั้งถัดไป
4. ข้อกำหนดด้านกฎหมายและการคุ้มครองผู้บริโภค
• บริการยืมเงินโทรศัพท์ถือเป็นบริการเสริมในกลุ่ม “Micro-credit” หรือ “เครดิตขนาดเล็ก” ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงาน กสทช. (กสทช.) ในเรื่องอัตราค่าธรรมเนียมและการเปิดเผยข้อมูล
• หากผู้ใช้รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนหรือติดต่อหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านโทรคมนาคมได้
7. บทสรุป
การ “ยืมเงิน AIS” ในยอด 20/60/80/100 บาท เป็นเครื่องมือทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ระบบเติมเงินที่ต้องการความสะดวกในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือในช่วงที่ยอดเงินเหลือไม่พอใช้งาน การใช้งานจะอ้างอิงกับรหัส USSD เช่น *611# เป็นหลัก เพื่อเช็กสิทธิ์และทำรายการ อย่างไรก็ดี รหัสย่อย (611xxi#) อาจเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของผู้ให้บริการ ผู้ใช้จึงจำเป็นต้องอัปเดตข้อมูลล่าสุดจากแหล่งทางการของ AIS เสมอ
ในด้านเศรษฐกิจและสังคม บริการลักษณะนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้ม “Micro-credit” หรือการให้สินเชื่อขนาดเล็กที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมจัดสรรขึ้น เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้ลูกค้า ขณะเดียวกันก็ต้องมีการบริหารความเสี่ยงและกำกับดูแลค่าธรรมเนียมอย่างโปร่งใสตามข้อบังคับ เมื่อมองไปในปี 2568 (ค.ศ. 2025) ก็เป็นไปได้ว่าบริการจะถูกพัฒนาให้สะดวกและหลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งผ่านแอปพลิเคชัน myAIS หรือช่องทางอื่น ๆ
ข้อแนะนำสุดท้าย สำหรับผู้ใช้บริการ คือ ควรใช้บริการยืมเงินอย่างเหมาะสม กดตรวจสอบและอ่านรายละเอียดค่าธรรมเนียมให้ชัดเจน พร้อมวางแผนการเติมเงินไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหายอดเงินเหลือไม่เพียงพอหรือมีหนี้ค้างจนไม่สามารถใช้บริการได้ตามปกติ
อ้างอิง
• บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน):
• เว็บไซต์ทางการ AIS (หมายเหตุ: ลิงก์อาจเข้าถึงไม่ได้ในบางบริบทที่อินเทอร์เน็ตถูกจำกัด หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงหน้าข้อมูลในอนาคต)
• แอปพลิเคชัน “myAIS” สำหรับตรวจสอบโปรโมชันล่าสุด
• สำนักงาน กสทช. (NBTC):
• กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคด้านโทรคมนาคม