ในยุคที่ “กู้เงินผ่านแอป” กลายเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว ก็เป็นธรรมดาที่จะมีทั้งแอปที่ถูกกฎหมาย และแอปที่มาในคราบ “มิจฉาชีพ” แฝงตัวอยู่ ซึ่งหลายคนอาจเคยเห็นข่าวคนโดนหลอกให้โอนค่าธรรมเนียมล่วงหน้า หรือโดนข่มขู่เมื่อไม่ได้จ่ายเงินกู้ แม้ไม่เคยสมัครจริง ๆ
คำถามคือ…จะรู้ได้ยังไงว่าแอปไหน “เชื่อถือได้” และ “ถูกกฎหมายจริง”?
บทความนี้มีคำตอบ พร้อมวิธีเช็กแบบง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้
1. แอปกู้เงินถูกกฎหมาย ต้องมีใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย
ก่อนจะโหลดแอปกู้เงิน ลองเข้าไปที่เว็บไซต์ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (www.bot.or.th) แล้วค้นหาชื่อบริษัทหรือแอปในหน้า “รายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาต”
หากชื่อบริษัทนั้นปรากฏในรายชื่อ เช่น:
- 
บริษัท มันนิกซ์ จำกัด (FINNIX) 
- 
บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด (เงินทันเด้อ) 
- 
บริษัท ไลน์ ไฟแนนเชียล พลัส จำกัด (LINE BK) 
แปลว่าแอปนั้น มีใบอนุญาต ถูกต้องตามกฎหมาย
ถ้าไม่เจอชื่อในระบบ = เสี่ยง! อย่าโหลด อย่าโอน
2. ดอกเบี้ยต้องอยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด
กฎหมายไทยกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไว้ชัดเจน:
- 
สินเชื่อส่วนบุคคล ดอกเบี้ยไม่เกิน 25% ต่อปี 
- 
Nano Finance (รายย่อยเพื่อประกอบอาชีพ) ไม่เกิน 33% ต่อปี 
- 
บัตรเครดิต ไม่เกิน 16% ต่อปี 
หากแอปใดคิดดอกเบี้ยเกินกว่านี้ ถือว่าผิดกฎหมาย
แอปที่ถูกกฎหมายมักแสดงรายละเอียดดอกเบี้ยชัดเจน เช่น
“ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก 25% ต่อปี” หรือ “ไม่เกิน 2.75% ต่อเดือน”
3. ต้องไม่ขอ “เก็บเงินก่อน” เด็ดขาด
หนึ่งในกลโกงที่พบบ่อยคือ แอปปลอมจะหลอกให้โอนเงินค่าประกัน ค่าธรรมเนียม หรือค่าดำเนินการล่วงหน้า
แอปที่ถูกกฎหมายและได้รับอนุญาตจากธปท. จะไม่มีนโยบายเรียกเก็บเงินก่อนอนุมัติ เด็ดขาด
ถ้าแอปไหนขอให้โอนเงินก่อน = มิจฉาชีพแน่นอน
4. แอปต้องดาวน์โหลดได้จากแหล่งที่เชื่อถือได้
แอปที่ถูกกฎหมายจะต้องสามารถดาวน์โหลดผ่าน
- 
Google Play Store (สำหรับ Android) 
- 
Apple App Store (สำหรับ iPhone) 
หากมีการส่งลิงก์จากแชทหรือ Facebook Inbox มาชวนกู้ โดยให้โหลดผ่านไฟล์ .apk หรือเว็บไซต์แปลก ๆ = ระวังให้ดี เพราะอาจแฝงมัลแวร์ขโมยข้อมูล
โหลดเฉพาะแอปที่มีชื่อผู้พัฒนา (Developer) ตรงกับบริษัทที่จดทะเบียนจริง
5. แอปที่ดี ต้องโปร่งใส และติดต่อได้
ก่อนจะกดยืมเงิน แอปควรแสดงข้อมูลเหล่านี้อย่างชัดเจน:
- 
ชื่อบริษัท ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล ช่องทางติดต่อ 
- 
รายละเอียดสินเชื่อ เช่น วงเงิน ผ่อนกี่เดือน ดอกเบี้ยเท่าไร 
- 
ข้อกำหนดการยินยอมให้เข้าถึงข้อมูล หรือการเก็บข้อมูลส่วนตัว 
ถ้าเจอแอปที่ไม่มีข้อมูลบริษัท ไม่มีเบอร์ติดต่อ หรือพูดแค่ว่า “อนุมัติง่าย ได้เงินไว” โดยไม่มีรายละเอียดใด ๆ = น่าสงสัย
ตัวอย่างแอปกู้เงินที่ถูกกฎหมายในปี 2568
| แอป | บริษัทผู้ให้บริการ | จุดเด่น | 
|---|---|---|
| FINNIX | บริษัท มันนิกซ์ จำกัด | ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก ยืมได้แม้ไม่มีสลิปเงินเดือน | 
| LINE BK | บริษัท ไลน์ ไฟแนนเชียล พลัส | เชื่อมบัญชีกสิกร ยืมเงินผ่าน LINE ได้เลย | 
| เงินทันเด้อ | บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด | สมัครง่าย อนุมัติเร็ว สำหรับอาชีพอิสระ | 
| Dolfin Money | บริษัท เซ็นทรัล เจดี มันนี่ | วงเงินสูง สมัครออนไลน์ได้หมด | 
| TrueMoney (ไมโครเครดิต) | บริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด | ใช้จ่ายในเครือทรู ดอกเบี้ย 0% ช่วงโปร | 
อย่าลืม: กู้เงินได้ ไม่ผิด
แต่ “ต้องกู้ให้ถูก” และ “จ่ายคืนให้ไหว”
การกู้เงินไม่ใช่เรื่องผิด หากเรากู้ในระบบ กู้กับผู้ให้บริการที่ถูกกฎหมาย และรู้ทันเงื่อนไขสัญญาอย่างรอบคอบ
เพราะหากพลาดไปเชื่อใจแอปปลอม นอกจากจะเสียเงิน อาจต้องเสียข้อมูลส่วนตัว หรือโดนขู่กรรโชกในภายหลัง
สรุปอีกครั้งแบบชัด ๆ
✅ ตรวจชื่อบริษัทในเว็บ ธปท.
✅ ดอกเบี้ยต้องไม่เกินเพดาน
✅ ไม่เรียกเงินก่อน
✅ โหลดจาก App Store / Google Play เท่านั้น
✅ ต้องมีข้อมูลบริษัทติดต่อได้จริง
 
                    