ถือเป็นข่าวดีสำหรับกลุ่มแรงงานนอกระบบ ที่กำลังประสบปัญหาด้านเงินทุน ที่ต้องนำมาใช้ในการหมุนเวียนและหล่อเลี้ยงธุรกิจของตน ซึ่งหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ส่งผลให้ กรมแรงงาน ได้ดำเนินการวางแผนเตรียมความพร้อมสำหรับการฟื้นฟู และส่งเสริมแรงงานนอกระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่รับงานทำที่บ้าน หรือ กลุ่มแรงงานนอกระบบรับงานทำที่บ้าน โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา มีการแถลงผลการประชุม ซึ่งมีการเห็นชอบให้ กระทรวงแรงงาน โดย กรมการจัดหางาน ให้ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนเงินกู้แรงงานและกลุ่มแรงงานนอกระบบ แก่ผู้รับงานทำที่บ้าน ซึ่งเป็นงบประมาณปี 2564 โดยมีการตั้งเป้าเงินกู้แรงงานไว้ที่ 7 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึง วันที่ 30 กันยายน 2564 โดยมีรายละเอียดเงินกู้แรงงานสำหรับผู้รับงานทำที่บ้าน ดังนี้
ลิงก์ผู้สนับสนุน
คุณสมบัติและเงื่อนไข ผู้ขอเงินกู้แรงงานนอกระบบ
โครงการปล่อยเงินกู้แรงงานนอกระบบ สำหรับกลุ่มคนที่รับงานทำที่บ้าน มีการอนุมัติวงเงินกู้ที่ 7 ล้านบาท โดยสามารถขอเงินกู้แรงงานได้สูงสุดที่ 300,000 บาท และที่สำคัญคือ ปลอดการชำระเงินต้นเงินกู้แรงงานนอกระบบเป็นระยะเวลา 4 งวด โดยมีการแบ่งการกู้ของแรงงานนอกระบบเป็น 2 ประเภท ดังนี้
เงินกู้แรงงาน รายบุคคล
การขอเงินกู้แรงงานนอกระบบรายบุคคลนี้ มีการกำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นไว้ ดังนี้
- ต้องเป็นผู้รับงานทำที่บ้าน ที่มีการจดทะเบียนกับกรมแรงงาน
- มีผลงานและมีรายได้จากงาน หรือมีหลักฐานในการรับงานทำที่บ้านจากผู้จัดหางาน
- มีทรัพย์สินหรือเงินทุนไม่น้อยกว่า 5,000 บาท
- ต้องไม่เป็นบุคคลล้มละลาย และต้องไม่เคยถูกดำเนินคดีหรืออยู่ระหว่างการดำเนินคดีเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน หรือบริการเงินด่วนต่าง ๆ
ทั้งนี้ การขอเงินกู้แรงงานนอกระบบ รายบุคคลมีการอนุมัติวงเงินกู้แรงงานนอกระบบ สำหรับผู้รับงานทำที่บ้าน ไม่เกิน 50,000 บาท และรับอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี (ปีละ 1500 บาท) และให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระแบบปลอดเงินต้นไม่เกิน 4 งวด ตั้งแต่ งวดที่ 1 – 4
เงินกู้แรงงานนอกระบบ รายกลุ่มบุคคล
การขอเงินกู้แรงงานนอกระบบรายกลุ่มบุคคล มีการกำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นไว้ 2 กรณี คือ การขอเงินกู้แรงงานนอกระบบไม่เกิน 2 แสนบาท และ การขอเงินกู้แรงงานนอกระบบตั้งแต่ 200,000 – 300,000 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
กรณีวงเงินกู้แรงงานนอกระบบ ไม่เกิน 200,000 บาท
- เงินกู้ไม่เกิน 2 แสนบาท
- พร้อมรับดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี (6000 บาท) และได้รับระยะเวลาในการปลอดชำระเงินต้นไม่เกิน 4 งวด ตั้งแต่งวดที่ 1 – 4
- คุณสมบัติเบื้องต้น ต้องเป็นกลุ่มผู้รับงานทำที่บ้านที่จดทะเบียน กับกรมการจัดหางาน
- มีผู้นำกลุ่มและสมาชิกกลุ่มกู้ร่วมกันไม่น้อยกว่า 5 คน
กรณีวงเงินกู้แรงงานนอกระบบ ตั้งแต่ 200,000 – 300,000 บาท
- เงินกู้ไม่เกิน 200,000 – 300,000 บาท
- พร้อมรับดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี และได้รับระยะเวลาในการปลอดชำระเงินต้นไม่เกิน 4 งวด ตั้งแต่งวดที่ 1 – 4
- คุณสมบัติเบื้องต้น ต้องเป็นกลุ่มผู้รับงานทำที่บ้านที่จดทะเบียน กับกรมการจัดหางาน
- มีผู้นำกลุ่มและสมาชิกกลุ่มกู้ร่วมกันไม่น้อยกว่า 6 คน
- มีผลงานและมีรายได้จากงาน หรือมีหลักฐานในการรับงานทำที่บ้านจากผู้จัดหางาน
- มีทรัพย์สินหรือเงินทุนไม่น้อยกว่า 10,000 บาท
- ต้องไม่เป็นบุคคลล้มละลาย และต้องไม่เคยถูกดำเนินคดีหรืออยู่ระหว่างการดำเนินคดีเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน หรือบริการเงินด่วนต่าง ๆ
การรับงานทำที่บ้าน คืออะไร
หลายคนอาจจะมีความสงสัยว่า งานทำที่บ้าน หรือการรับงานทำที่บ้าน นั้น คืองานอะไร โดยกรมการจัดหางานได้ให้ความหมายไว้ว่า การรับงานทำที่บ้าน คือ งานที่ผู้จ้างงานมอบให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านเพื่อไปผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อมหรือแปรรูป สิ่งของตามที่ได้ตกลงในบ้านของตนเองหรือสถานที่ที่มิใช่สถานประกอบกิจการของผู้ว่าจ้าง โดยมีลักษณะและประเภทของการรับงานทำที่บ้านเป็นงานที่ไม่ใช้เทคโนโลยีซับซ้อนในการผลิต มีการตัดขั้นตอนบางขั้นตอน หรือชิ้นส่วนของงานบางชิ้นในการผลิตหรือผลิตทั้งหมด ลักษณะงานที่ส่งให้ทำเป็นงานที่สามารถเรียนรู้ได้ง่าย เป็นงานที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น มักใช้แรงงานคนทำการผลิตมากกว่าใช้เครื่องจักร
ประเภทของการรับงานทำที่บ้าน มีทั้งประเภทงานที่ผลิตหรือประกอบขึ้น เพื่อใช้ภายในประเทศ หรือเพื่อการส่งออก เช่น กระเป๋า รองเท้า เข็มขัด วิกผม เครื่องประดับ การไม้ ตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เป็นต้น
การจดทะเบียนเป็นผู้รับงานทำที่บ้าน
การจดทะเบียนเป็นผู้รับงานทำที่บ้านเป็นการส่งเสริมการรับงานทำที่บ้านประการหนึ่ง โดยเป็นการเสริมสร้างความเข็มแข็งให้ผู้รับงานทำที่บ้าน อีกทั้งยังสามารถสร้างความมั่นคงในการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพื่อประโยชน์ในการรับงานทำที่บ้าน และเพื่อความสะดวกต่อการส่งเสริมพัฒนาความรู้ และทักษะฝีมือของผู้รับงานทำที่บ้าน โดย สำหรับการจดทะเบียนนี้ นายทะเบียนผู้รับงานทำที่บ้านประจำท้องที่ จะเป็นผู้รับจดระเบียนผู้รับงานทำที่บ้าน ตามระเบียบกรมการจัดหางานว่าด้วยการส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ. 2560
คุณสมบัติของผู้รับงานทำที่บ้าน
กรณีผู้รับงานทำที่บ้านเป็นรายบุคคล จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- มีสัญชาติไทย
- มีอายุ 20 บริบูรณ์ขึ้นไป
- มีสถานที่ที่รับงานทำที่บ้านเป็นหลักแหล่ง
กรณีผู้รับงานทำที่บ้านเป็นกลุ่มบุคคล มีการกำหนดคุณสมบัติทั่วไป คือ
- มีสมาชิกกลุ่มที่มีสัญชาติไทย และมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ และมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 คน โดยให้เลือกสมาชิกหนึ่งคนเป็นผู้นำกลุ่ม
- สมาชิกกลุ่มบุคคลจะต้องไม่เป็นผู้รับงานทำที่บ้านอื่น
- มีสถานที่ที่รับงานทำที่บ้านเป็นหลักแหล่ง
เอกสารหลักฐานประกอบการยื่นขอจดทะเบียนเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้าน
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- แผนที่แสดงที่อยู่และแผนที่แสดงที่ตั้งสถานที่ที่รับงานทำที่บ้าน
การยื่นจดทะเบียน
ผู้รับงานทำที่บ้านที่ประสงค์จะขอจดทะเบียน ให้ยื่นคำขอจดทะเบียน ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 แห่งท้องที่ที่สถานที่รับงานไปทำที่บ้านตั้งอยู่
หรือติดต่อสอบถามได้ที่กองส่งเสริมการมีงานทำ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน โทรศัพท์ 0-2245-1317
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเงินกู้แรงงานนอกระบบ เพื่อผู้รับงานทำที่บ้าน 2563 สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 สำนักงานจัดหางานจังหวัดในท้องที่ที่ผู้รับงานทำที่บ้านได้ดำเนินการจดทะเบียนไว้ กับกรมการจัดหางาน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน
โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน