ปัจจุบันการมีเงินสำรองเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากเมื่อเกิดความต้องการใช้เงินเร่งด่วน การขอสินเชื่อ หรือไปกู้ยืมเงินด้วยวิธีการอื่นอาจต้องใช้เวลา และล่าช้าจนเพื่อนๆ ต้องหันไปพึ่งการกู้เงินนอกระบบ ที่ดอกเบี้ยแพงแสนแพง ดังนั้น หากเพื่อนๆ ต้องการมีเงินสำรอง การขอสินเชื่อ Dolfin Money by KBank ดูเป็นทางที่ดีกว่า เพราะเปรียบเสมือนการมีกระเป๋าตังสำรองไว้ใช้ในยามต้องการเงินเร่งด่วนได้ ที่สำคัญไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย ถ้ายังไม่ได้ดึงเงินตรงนั้นมาใช้ หากเพื่อนๆ เริ่มสนใจแล้ว ตามมาดูรายละเอียดวิธีสมัครสินเชื่อ Dolfin Money by KBank และตอบคำถามใครสมัครสินเชื่อดอลฟินได้บ้าง มาดูกัน
ใครสมัครสินเชื่อดอลฟินได้บ้าง
ทุกคนสามารถสมัครสินเชื่อดอลฟินมันนี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ขอเพียงมีรายได้สม่ำเสมอ และอายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป
ขั้นตอนสมัครสินเชื่อดอลฟิน
1.Download แอป K PLUS และแอป Dolfin Wallet
วิธีสมัครสินเชื่อ Dolfin Money by KBank ชั้นตอนแรก ให้เพื่อนๆ โหลดแอป K PLUS และ แอป Dolfin Wallet ซึ่งเพื่อนๆ สามารถดาวโหลดได้ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android ส่วนใครที่มีทั้ง 2 แอปนี้แล้ว ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย
2.เข้าแอปพลิเคชัน Dolfin Wallet และสมัครจนสำเร็จผ่าน K PLUS
วิธีสมัครสินเชื่อ Dolfin Money by KBank ขั้นตอนที่ 2 ให้เพื่อนๆ เข้าแอปพลิเคชัน Dolfin Wallet และสมัครจนสำเร็จผ่าน K PLUS ตาม 10 ขั้นตอนด้านล่างได้เลย
ขั้นตอนที่ 1 เปิดแอปพลิเคชัน Dolfin จากนั้นคลิกเลือกเมนู “เมนูหลัก” มุมซ้ายบน
ขั้นตอนที่ 2 เลือกเมนู “Dolfin Money”
ขั้นตอนที่ 3 “คลิกเลือกยอมรับและสมัครเลย”
ขั้นตอนที่ 4 กรอกเบอร์มือถือที่ใช้ในการสมัครแอป K PLUS
ขั้นตอนที่ 5 กดปุ่ม “อนุญาต” ให้แอปสามารถเข้าถึง K PLUS และสมัครต่อบนแอป K PLUS
ขั้นตอนที่ 6 กดปุ่ม “ยืนยัน” เพื่อยินยอมการสมัครใช้บริการ Dolfin Money by KBank
ขั้นตอนที่ 7 ตรวจสอบความถูกต้อง หรืออัพเดทข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลอาชีพ แหล่งที่มาของรายได้ ที่อยู่ที่ติดต่อได้และใช้เพื่อจัดส่งเอกสาร จากนั้นกด “ต่อไป”
ขั้นตอนที่ 8 เลือกวิธีการชำระเงินคืน ซึ่งการชำระบิลบัตรสามารถทำได้ 2 วิธี คือ ชำระด้วยตนเอง (รับดอกเบี้ย 0 % นาน 30 วัน) และ หักบัญชีอัตโนมัติ(ชำระขั้นต่ำ รับดอกเบี้ย 0 % นาน 90 วัน) จากนั้นกด “ต่อไป”
ขั้นตอนที่ 9 เมื่อทำการสมัครเสร็จ ระบบจะแจ้งว่า ธนาคารอยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาข้อมูลการให้สินเชื่อ Dolfin Money by KBank จากนั้นกด “ตกลง”
ขั้นตอนที่ 10 เพื่อนๆ จะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อวงเงินอนุมัติ ผ่านแอป Dolfin และ K PLUS ข้อความ “ยินดีด้วย คุณได้รับการอนุมัติวงเงินแล้ว”
3.ผูกบัตร Dolfin Money by KBank บน K PLUS เพื่อเตรียมเบิกเงิน
วิธีสมัครสินเชื่อ Dolfin Money by KBank ขั้นตอนสุดท้ายคือ การผูกบัตร Dolfin Money by KBank บน K PLUS เพื่อเตรียมเบิกเงินอย่างสะดวกสบาย ตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 กดดูข้อความแจ้งอนุมัติบนแอป K PLUS หลังเพื่อนๆ เข้าแอปพลิเคชัน Dolfin และสมัครจนสำเร็จผ่าน K PLUS แล้ว จะได้รับข้อความ “สินเชื่อ Dolfin Money by KBank ได้รับการอนุมัติแล้ว”
ขั้นตอนที่ 2 ใส่รหัสผ่านแอป K PLUS (รหัสเดียวกับที่เพื่อนๆ เข้าแอป K PLUS เลย)
ขั้นตอนที่ 3 เลือกเพิ่มบัตร Dolfin Money by KBank หลังเพื่อนๆ ใส่รหัสผ่านแอป K PLUS เรียบร้อยแล้วแอปจะขึ้นว่า เพื่อนๆ สมัครบัตร Dolfin Money by KBank สำเร็จ พร้อมระบุรายละเอียดเลขที่บัตร วงเงินที่อนุมัติ ดอกเบี้ยต่อปี และวันที่ทำการอนุมัติ
ขั้นตอนที่ 4 วงเงินจะปรากฏที่หน้าแอป K PLUS ทั้งวงเงินคงเหลือและยอดเงินที่ใช้ไป
ทั้งนี้หากเพื่อนๆ ไม่ได้รับการแจ้งผลการอนุมัติบนแอป K PLUS ให้เพื่อนๆ ทำการติดต่อ K-Contact Center ที่หมายเลข 02-888-8888
สมัครสินเชื่อ Dolfin Money by KBank : มีค่าธรรมเนียมในการสมัครและใช้บริการหรือไม่
ปัจจุบัน(ปี 2564) ยังไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการสมัครและใช้บริการ ไม่มีค่าอากรแสตมป์ ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปี ไม่มีค่าธรรมเนียมในการส่งคำสั่งโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย หรือซื้อสินค้าและบริการบนร้านค้าออนไลน์ที่รับบัตร Union Pay
สมัครสินเชื่อ Dolfin Money by KBank : ทราบผลอนุมัติภายในกี่วัน
ปกติการสมัครสินเชื่อ Dolfin Money by KBank ลูกค้าที่มีเงินเดือนผ่านธนาคารกสิกรไทยหรือลูกค้าที่มีรายการเดินบัญชีย้อนหลังผ่านธนาคารกสิกรไทย ติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือน จะทราบผลอนุมัติเร็วสุดภายใน 5 นาที หากเพื่อนๆ ทำธุรกรรมตั้งแต่ต้นจนจบภายในเวลาทำการ 8.00 – 20.30 น. แต่สำหรับลูกค้าทั่วไปจะทราบผลการอนุมัติภายใน 5 วันทำการหลังจากที่ทางธนาคารได้รับเอกสารรายได้ครบถ้วน
สมัครสินเชื่อ Dolfin Money by KBank : อนุมัติวงเงินสูงสุดเท่าไหร่ พิจารณาจากอะไร
สินเชื่อ Dolfin Money by KBank มีวงเงินอนุมัติสูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ สูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และพิจารณาวงเงินจากรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของเพื่อนๆ กรณีที่เพื่อนๆ มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป จะได้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ กรณีที่เพื่อนๆ มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาท จะได้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้