คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการทั้ง 3 ข้อของประกันสังคมที่พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกท่านสามารถดำเนินการ ขอคืนเงินชราภาพหรือรับบำเหน็จหรือบำนาญ ซึ่งมีความสอดคล้องและเข้ากับสถานการณ์ในยุคปัจจุบันมากกว่าสำหรับทุกท่านที่ได้ดำเนินการส่งเบี้ยประกันสังคมได้จนครบ
คืนเงินชราภาพประกันสังคม 2565
จากการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งว่าสุดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ทางคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติประสังคม ฉบับใหม่ ตามที่กระทรวงแรงงานได้นำเสนอ โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการใช้จ่ายและการใช้เงินเบี้ยชราภาพ เงินบำเหน็จและบำนาญสำหรับพี่น้องผู้มีสถานะเป็นผู้ประกันตน โดยมีผลมาจากสถานการณ์และความเปลี่ยนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ที่ส่งผลกระทบโดยตรงอย่างหนักต่อการดำเนินชีวิต โดยตามร่างพระราชบัญญัตินั้น มีการกล่าวถึงประเด็นสำคัญ 3 ข้อด้วยกันคือ
- การขยายความคุ้มครองให้กับผู้ประกันตน ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนให้ผู้ประกันตนนั้นสามารถดำเนินการขอรับเงินบำนาญจ่ายล่วงหน้าได้ พร้อมทั้งมีการขยายเกณฑ์อายุของผู้สมัคร ให้กลุ่มผู้สูงอายุสามารถสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนได้เพิ่มมากขึ้น
- ประเด็นเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ กรณีชราภาพอันเกิดจากข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ใช้แรงงานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกันตน ซึ่งผู้ประกันตนนั้น สามารถเลือกรับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญชราภาพได้ โดยด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยากลำบากนั้น ผู้ประกันตนก็สามารถนำเงินสะสมกรณีชราภาพบางส่วน ออกมากใช้ก่อนได้เช่นกัน
- ปรับเพิ่มเติมสิทธิให้แก่ผู้ประกันตน เช่น เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร จากเดิม 90 วัน เป็น 98 วัน และเงินทดแทนการขาดราขได้กรณีทุพพลภาพจากเดิมจ่ายที่ร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 70
- เงื่อนไขและรายละเอียดอื่น ๆ ทุกท่านสามารถเข้าติดตามได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม หรือรอการประกาศออกมาเป็นกฎหมายได้ทันทีในอนาคตหลังจากที่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เช็คเงินชราภาพ ประกันสังคม
ก่อนที่ทุกท่านจะได้ศึกษารายละเอียดหรือไปคำนวณเงินที่จะได้รับในกรณีชราภาพนั้น ทุกท่านสามารถดำเนินการเข้าตรวจสอบหรือเช็คเงินชราภาพประกันสังคมได้ทันที ง่าย ๆ และด้วยตัวท่านเอง เพื่อตรวจสอบและเช็คดูว่าท่านมีเงินสะสมอยู่เท่าไร ทั้งนี้ทุกท่านสามารถเข้าดำเนินการได้ผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือ เข้าเช็คเงินชราภาพผ่านแอปพลิเคชั่น SSO CONNECT หรือเข้าตรวจสอบได้ด้วยตัวท่านเองผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม โดยมีรายละเอียดและวิธีการดังนี้
- เข้าใช้งานระบบของสำนักงานประกันสังคมได้ทันทีทั้ง 2 ช่องทาง คือ แอพ SSO หรือที่หน้าเว็บไซต์ ที่นี่
- หลังจากนั้นดำเนินการลงชื่อเข้าใช้งานระบบ ด้วยหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักและรหัสผ่าน ทั้งนี้หากท่านยังไม่ได้สมัคร ก็สามารถลงทะเบียนได้ทันที
- เมื่อท่านดำเนินการลงชื่อเข้าสู่ระบบแล้ว ระบบจะนำท่านมาที่หน้าแรก ซึ่งมีเมนูให้เลือกมากมาย เช่น ตรวจสอบสิทธิรักษาพยาบาล/ ข้อมูลเงินสมทบ/ ขอเปลี่ยนสถานพยาบาล/ ประวัติการใช้สิทธิประโยชน์ทดแทน/ การคำนวณเงินสงเคราะห์ชราภาพ เป็นต้น
- ซึ่งในท่านกดเลือกที่ การคำนวณเงินสงเคราะห์ชราภาพ
- หลังจากนั้น ระบบจะดำเนินการแสดงรายะเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับตัวท่าน ซึ่งจะสามารถบ่งบอกข้อมูลได้ เช่น ปีที่เริ่มต้นชำระ/ จำนวนเงินสมทบของผู้ประกันตน/ ยอดรวมทั้งหมด ซึ่งในส่วนท้ายสุดจะเป็นการให้รายละเอียดและข้อมูลโดยสรุปสำหรับ จำนวนเงินสมทบของท่านทั้งหมดและเงินยอดรวมทั้งที่มีการสมทบจากท่านและนายจ้าง
เพียงเท่านี้ทุกท่านก็จะสามารถเข้าดำเนินการตรวจเช็คเงินสงเคราะห์ชราภาพได้ทันที ง่าย ๆ ผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปดำเนินการที่สำนักงานประกันสังคมให้เสียเวลา
แก้ไขสิทธิสำหรับผู้ประกันตน 2565
หากพระราชบัญญัติประกันสังคมใหม่ประกาศใช้ ทุกท่านที่เป็นผู้ประกันตนนั้น จะสามารถดำเนินการตามเงื่อนไขที่เราได้นำเสนอ โดยทั้งหมดจะต้องมาดูรายละเอียดและเงื่อนไขเกี่ยวกับการจ่ายเงินสมทบ ซึ่งทุกท่านนั้น ได้ดำเนินการจ่ายไปแล้วและมีความแตกต่างกันไปตามระยะเวลาและตามเงื่อนไขของฐานะการเป็นผู้ประกันตน โดยสรุปแล้ว จะมีประเด็นสำคัญ หลัก ๆ อยู่ 3 เรื่องด้วยกันที่ทุกท่านต้องติดตามข่าวสารปละรายละเอียดเพิ่มเติม โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ผู้ประกันตนสามารถเลือกรับบำนาญ หรือเลือกบำเหน็จแทนได้ โดยหากทุกท่านจ่ายเงินสมทบไม่ครบตามเงื่อนไขที่ 180 เดือนหรือ 15 ปี ท่านจะได้รับเงินบำเหน็จเท่านั้น โดยท่านที่ดำเนินการจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือนนั้น ท่านจะสามารถเลือกรับเงินบำนาญได้ และแม้ว่าท่านจะได้รับเงินบำเหน็จ แต่ก็ยังมีข้อดีซึ่งเป็นเงินก้อนใหญ่และเหมาะสำหรับท่านที่ต้องการใช้เงินก้อน เพื่อปิดหนี้สินหรือเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับชีวิตหลังเกษียณ เป็นต้น
- ผู้ประกันตนจะสามารถขอคืนเงินชราภาพบางส่วนได้ก่อน อายุ 55 ปี ในกรณีทั่วไปนั้นทุกท่านจะสามารถได้รับเงินชราภาพคืน ก็ต่อเมื่อท่านดำเนินการลาออกจากการเป็นผู้ประกันตน หรือมีอายุครบ 55 ปี โดยกฎหมายใหม่นี้จะเปิดโอกาสให้ทุกท่านสามารถดำเนินการเลือกขอรับเงินคืนก่อนกำหนดได้ ทั้งนี้กรณีนี้อาจจะต้องติดตามข่าวสารกันต่อไปว่าจะสามารถทำได้จริงหรือใหม่
- ผู้ประกันตนสามารถใช้เงินชราภาพเป็นหลักประกันการกู้กับสถาบันการเงินได้ ถือเป็นทางออกอีกทางสำหรับทุกท่านที่มีความเดือดร้อน และต้องการขอสินเชื่อกับทางธนาคาร โดยกรณีนี้ผู้ประกันตนจะสามารถใช้เงินชราภาพที่มีอยู่สำหรับการค้ำประกันการขอสินเชื่อกับธนาคาร ซึ่งจะเป็นการแบ่งเบาภาระและลดการก่อหนี้สิ้นจากแหล่งเงินกู้นอกระบบ ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่สำหรับหลายท่านในเวลานี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางคณะรัฐมนตรีจะดำเนินการมีมติเห็นชอบในหลักการแล้ว แต่การดำเนินการนั้น คงต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควรจึงจะมีการประกาศใช้ ดังนั้นผู้ประกันตนทุกท่านต้องติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ตกข่าวและเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
อ้างอิง 1