จากมาตรการหลาย ๆ โครงการที่รัฐดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชน ทั้งเงินเยียวยา และเงินช่วยเหลือในการประกอบอาชีพ โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจนก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้นอกจากมีผู้ที่ได้รับประโยชน์ตรงตามสิทธิ์ที่พึ่งได้รับแล้วนั้น ยังคงมีประชาชนอีกมากที่มีการสวมสิทธิ และตกหล่นจากการดูแล โดยไม่ได้รับสิทธิในการถือบัตรคนจน ซึ่งทางกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการตรวจสอบและอัพเดตข้อมูลของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน 64 นี้อาจจะต้องมีการเปิดลงทะเบียนบัตรคนจนใหม่อีกครั้ง พร้อมทั้งดำเนินการทบทวนสิทธิสำหรับประชาชนที่ไม่ได้รับสิทธิ ซึ่ง ผู้ถือบัตรคนจน 64 เดิมทั้ง 13.8 ล้านราย ต้องลงทะเบียนใหม่
ดังนั้น ในครั้งนี้เราจึงขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าในการดำเนินงานตามแผน และข้อมูลเกี่ยวกับบัตรคนจน 64 หรือการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในรอบใหม่ ซึ่งมีรายละเอียดและข้อมูล ดังนี้
ลิงก์ผู้สนับสนุน
ลงทะเบียนบัตรคนจน รอบใหม่
จากการดำเนินนโยบายโรงการพิเศษที่เน้นการช่วยเหลือและเยียวยาจากทางภาครัฐ ทั้งโครงการเราไม่ทิ้งกัน เราชนะ และคนละครึ่งเป็นต้น ส่งผลให้ทางภาครัฐได้รับข้อมูลการจำนวนประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงการให้บริการเหล่านั้นได้ เนื่องจากข้อจำกัดในการเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือไม่สามารถเข้าถึงการให้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ ทำให้ได้รับข้อมูลว่าในประเทศไทยยังคงมีประชาชนอีกมาก ที่ไม่สามารถใช้งานจากโครงการที่รัฐดำเนินการ และไม่ได้รับความช่วยเหลือ ประกอบกับ ทำให้เห็นว่ายังมีประชาชนมีมากมาย ที่ไม่ได้รับสิทธิบัตรคนจน 64 หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจนจึงเป็นเหตุให้ต้องมีการ ทบทวนสิทธิบัตรคนจน และเปิดลงทะเบียนบัตรคนจนใหม่
จากข้อมูลเบื้องต้น ในขณะนี้ทางกระทรวงการคลังเปิดเผยว่าการลงทะเบียนบัตรคนจน หรือขั้นตอนารดำเนินการพิจารณา และการทบทวนสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจนนั้นอาจจะต้องดำเนินการพิจารณาในทุก ๆ ปี เพื่อเป็นการอัพเดตข้อมูล ซึ่งในขณะนี้ทางกระทรวงการคลังได้ข้อมูลของการดำเนินการในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมาแล้ว
ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิม ต้องทำอย่างไร
ทั้งนี้เมื่อกระทรวงการคลังได้มีการเปิดเผยในเบื้องต้น เกี่ยวกับการลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ เพื่อเป็นการทบทวนและตรวจสอบการได้รับสิทธินั้น กลุ่มผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิม ที่มีจำนวนร่วม 13.8 ล้านคนต้องเข้ามาลงทะเบียนเพื่อทบทวนสิทธิใหม่ทั้งหมด เนื่องจากการได้รับสิทธิที่มีการดำเนินการซ้ำซ้อน เช่น ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจนที่เคยได้รับสิทธิไปแล้ว เมื่อผ่านการสอบเข้ามาเป็นข้อราชการ หรือ สมัครเข้าทำงานในบริษัทเอกชนที่มีมาตรการในการคุ้มครองเป็นผู้ประกันตนตาม มาตรการ 33 การได้รับสิทธิช่วยเหลือหรือเยียวยานั้น จะมีการรับสิทธิที่ซ้ำซ้อนกันกับการรับสิทธิจากบัตรคนจน 64
ลงทะเบียนบัตรคนจนใหม่ จะมีการเปลี่ยนเงื่อนไข
การเปิดทบทวนสิทธิและการลงทะเบียนบัตรคนจน ครั้งใหม่นี้ จะมีการกำหนดเกณฑ์และเงื่อนไขใหม่ โดยจะพิจารณาคุณสมบัติการได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจนจากรายได้ครัวเรือนเป็นประเด็นหลัก ซึ่งจะมีความแตกต่างจากเงื่อนไขที่ผ่านมาโดยเป็นการพิจารณาจากรายได้บุคคลเป็นสำคัญ และด้วยการพิจารณาจากเงื่อนไขนั้นทำให้รายครัวเรือนมีการได้รับสิทธิทั้ง สามีและภรรยา โดยในครอบครัวที่สามีเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้มาก แต่ภรรยาเป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่มีรายได้ หากพิจารณาด้วยเกณฑ์เดิม ภรรยาจะได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน แต่ด้วยการกำหนดเงื่อนไขใหม่ที่ดึงเอารายได้ครัวเรือนมาพิจารณาร่วม จะทำให้ไม่มีผู้ที่ได้รับสิทธิในครอบครัวที่มีรายได้ครัวเรือนเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
ทั้งนี้ การลงทะเบียนบัตรคนจรรอบใหม่นี้ ยังไม่มีการกำหนดเงื่อนไขที่แน่ชัดออกมาในขณะนี้ ดังนั้นผู้ที่เข้าข่ายมีสิทธิได้รับสิทธิบัตรคนจน 64 ควรติดตามข่าวสาร และการกำหนดคุณสมบัติของผู้ถือบัตรคนจน 64 โดยจากการรายงานข่าว แจ้งว่า ในปีงบประมาณ 2564 (ต.ค. 2563-ก.ย. 2564) รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการคัดเลือกและให้ความช่วยเหลือผู้ถือบัตรคนจน 64 ในการสนับสนุนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเป็นกองทุนที่ตั้งขึ้นมาเพื่อบริหารจัดการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน โดยเพิ่มขึ้นกว่า 9,500 ล้านบาท จากปีงบประมาณ 2563
คาดการณ์ บัตรคนจน 64
จากการกำหนดมาตรการและเงื่อนไขใหม่ หลายท่านอาจจะมีความกังวลเรื่องจำนวนของผู้ที่ได้รับสิทธิที่อาจจะมีจำนวนลดน้อยลง ซึ่งทั้งนี้ในการดำเนินการตามนโยบายใหม่นั้น ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีจำนวนของผู้ได้รับสิทธิบัตรคนจน 64 หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐน้อยลงหรือไม่ แต่ขอให้ทุกท่านสบายใจ และไม่ต้องกังวล เนื่องจากวงเงินงบประมาณยังคงอยู่ ขอเพียงทุกท่านผ่านการคัดกรองและทบทวนสิทธิตามเงื่อนไขใหม่ เพียงเท่านี้ก็จะได้รับสิทธิบัตรคนจน 64 ตามเดิมและสำหรับท่านที่อาจจะไม่ได้รับสิทธิในการลงทะเบียนบัตรคนจน รอบใหม่นี้ แต่ก็มีสิทธิในการเข้าร่วมโครงการให้ความช่วยเหลือในด้านและโครงการอื่น ๆ จากทางภาครัฐในอนาคต
หากทุกท่าน ที่เป็นผู้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มมีความกังวลในการคำนวณค่าใช้จ่ายหรือมีภาระหนี้สินที่ต้องดำเนินการเพื่อชำระ ท้ายบทความนี้ เราจึงขอเสนอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โครงการไกล่เกลี่ยหนี้ ที่ดำเนินการโดยภาครัฐ เพื่อเป็นข้อมูลและตัวช่วยให้หลาย ๆ ที่เริ่มมีความกังวลในการไกล่เกลี่ยหนี้ 2564 นี้แม้พลาดจากการถือบัตรคนจน 64
มหกรรมโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ 2564
สำหรับผู้ถือบัตรคนจน 64 ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยหนี้รูปแบบใหม่นี้ ประชาชนที่สามารถเข้าร่วมได้ จะต้องเป็นประชาชนที่เป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ไม่ว่าจะมีสถานะบัญชีปกติ หรือมีการค้างชำระ โดยสามารถเป็นหนี้ที่ยังไม่มีการฟ้องร้อง หรือหนี้ที่มีคำพิพากษาไปแล้ว ก็สามารถเข้าร่วมโครงการ และใช้ช่องทางของมหกรรมไกล่เกลี่ยครั้งนี้เพื่อปลดหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลได้ โดยโครงการจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึง 14 เมษายน 2564 นี้ ซึ่งตามโครงการมีการแบ่งลูกหนี้ออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
ลูกหนี้สถานะยังเป็นหนี้ดี การไกล่เกลี่ยหนี้สำหรับลูกหนี้กลุ่มนี้สามารถครอบคลุมหนี้ทุกรูปแบบ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ลูกหนี้ที่ยังมีสถานะบัญชีการกู้ปกติ หรือหนี้ดี โดยสามารถจ่ายในอัตราขั้นต่ำ แต่เริ่มขาดสภาพคล่อง เพราะดอกเบี้ยสูง และมีแนวโน้วว่าจะไม่สามรถผ่อนชำระหรือปลดหนี้บัตรเครดิตได้แน่ ๆ
ลูกหนี้สถานะหนี้เป็นหนี้เสีย NPL ที่ยังไม่ถูกฟ้องหรือถูกฟ้องแล้ว สำหรับลูกหนี้ประเภทนี้ สามารถใช้ช่องทางและเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการลงนามในบันทึกความร่วมมือกับสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งสามารถใช้วิธีการไกล่เกลี่ยกับทางศาล และพร้อมเข้าสู่การเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ ของทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้ในทันที ซึ่งจะยิ่งช่วยให้ลูกหนี้สามารถดำเนินการปลดหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งผ่อนได้นานถึง 10ปี
ลูกหนี้ NPL ที่มีคำพิพากษาบังคับคดีแล้ว
แท้จริงแล้วลูกหนี้กลุ่มนี้ คือ เป้าหมายที่แท้จริงของการดำเนินโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ในครั้งนี้ เพราะมีข้อจำกัดในการเข้าร่วมโรงการคลินิกแก้หนี้ ซึ่งโดยปกติ เมื่อมีการดำเนินการมาถึงขั้นตอนนี้ เจ้าหน้าที่มักจะปฏิเสธการเจารจา ซึ่งเป็นเรื่องดีต่อลูกหนี้ที่ สถาบันการเงินทั้ง 22 แห่งต่างเห็นความยากลำบากและพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการ และเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้สามารถปลดหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อต่าง ๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น
ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก ที่นี่ มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิต
