คนละครึ่งเฟส 1 ใช้ได้ถึงวันไหน

 

ในช่วงที่ค่าครองชีพพุ่งสูงและราคาสินค้าทุกอย่างปรับขึ้นต่อเนื่อง โครงการช่วยเหลือจากรัฐบาลยังคงเป็นความหวังสำคัญของคนไทย โดยเฉพาะโครงการ คนละครึ่งพลัสเฟส 1 ที่ถูกพูดถึงอย่างมากในปี 2568 เพราะถือเป็นการต่อยอดจาก “คนละครึ่ง” รุ่นเดิม แต่เพิ่มเติมความครอบคลุมและวงเงินให้มากขึ้น หลายคนจึงเริ่มค้นหาข้อมูลว่า คนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ได้ถึงวันไหน และสิทธิยังเหลืออยู่หรือไม่ บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจรายละเอียดทั้งหมด พร้อมแนวทางเตรียมตัวก่อนสิทธิหมดอายุ


คนละครึ่งพลัสเฟส 1 คืออะไร

โครงการ คนละครึ่งพลัสเฟส 1 เป็นมาตรการช่วยเหลือด้านค่าครองชีพที่รัฐบาลเปิดตัวในปี 2568 เพื่อสานต่อความสำเร็จจาก “คนละครึ่ง” เดิม โดยคำว่า “พลัส” หมายถึงการเพิ่มสิทธิและขยายกลุ่มผู้ได้รับประโยชน์ให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งประชาชนทั่วไป แม่ค้า ผู้ประกอบการรายย่อย และร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็ก

จุดเด่นของโครงการนี้คือ รัฐบาลยังคง “ช่วยจ่ายครึ่งหนึ่ง” ของค่าสินค้าและบริการเหมือนเดิม แต่เพิ่มวงเงินสูงสุดต่อคนเป็น 2,000 บาท และขยายประเภทสินค้าที่ใช้ได้ให้กว้างขึ้น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าขนส่ง และร้านค้าในแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เข้าร่วมโครงการ โดยทั้งหมดต้องชำระผ่านแอป เป๋าตัง (Pao Tang) เช่นเดียวกับเฟสก่อนหน้า


คนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ได้ถึงวันไหน

คำถามที่หลายคนอยากรู้มากที่สุดคือ “คนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ได้ถึงวันไหน” ซึ่งตามประกาศจากกระทรวงการคลัง โครงการนี้เปิดให้ใช้สิทธิตั้งแต่ วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป และจะสิ้นสุดการใช้สิทธิในวันที่ 31 ธันวาคม 2568

นั่นหมายความว่า ผู้ที่ได้รับสิทธิจะมีเวลาใช้จ่ายได้ประมาณ 5 เดือนเต็ม ก่อนที่ระบบจะปิดการใช้งานในสิ้นปี ซึ่งหากวงเงินยังเหลืออยู่หลังจากวันที่ 31 ธันวาคม 2568 เงินในโครงการจะหมดอายุทันที ไม่สามารถนำไปใช้ในเฟสถัดไปได้

ดังนั้นผู้ที่มีสิทธิในโครงการควรรีบใช้จ่ายให้ครบภายในกำหนด เพื่อไม่ให้พลาดประโยชน์จากงบประมาณที่รัฐบาลสนับสนุนในรอบนี้


ใช้สิทธิคนละครึ่งพลัสยังไงให้คุ้ม

ผู้ใช้สิทธิสามารถซื้อสินค้าและบริการได้ในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ โดยใช้แอป เป๋าตัง สแกนจ่ายผ่าน G-Wallet ซึ่งระบบจะตัดเงินครึ่งหนึ่งจากผู้ซื้อ และให้รัฐช่วยจ่ายอีกครึ่งโดยอัตโนมัติ

ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อสินค้าราคา 200 บาท คุณจ่ายเองเพียง 100 บาท อีก 100 บาทรัฐจะช่วยออกให้ผ่านระบบทันที และสามารถใช้สิทธิได้สูงสุดวันละ 200 บาทตามเงื่อนไขที่กำหนด

นอกจากนี้ ยังสามารถใช้สิทธิได้กับร้านค้า OTOP ร้านอาหาร คาเฟ่ ตลาดสด ร้านบริการในชุมชน รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เข้าร่วม เช่น Food Delivery และบริการขนส่งภายในเมือง ซึ่งถือเป็นการขยายขอบเขตให้ “เงินช่วยจากรัฐ” หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้กว้างกว่าโครงการคนละครึ่งเดิม


เงื่อนไขผู้ได้รับสิทธิคนละครึ่งพลัสเฟส 1

แม้ชื่อจะใกล้เคียงกับโครงการเดิม แต่ คนละครึ่งพลัสเฟส 1 มีการปรับคุณสมบัติผู้เข้าร่วมให้เหมาะกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน โดยผู้มีสิทธิต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • สัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป

  • มีบัตรประชาชนและที่อยู่ในประเทศไทย

  • ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (เว้นแต่รัฐบาลอนุมัติร่วมโครงการในบางจังหวัดนำร่อง)

  • มีบัญชีและยืนยันตัวตนในแอปเป๋าตังเรียบร้อย

  • ยังไม่เคยถูกตัดสิทธิในโครงการภาครัฐก่อนหน้า

เมื่อผ่านการตรวจสอบและได้รับ SMS ยืนยันสิทธิจากกระทรวงการคลัง จึงสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ทันทีตั้งแต่วันที่โครงการเริ่มต้น


ทำไมรัฐบาลต้องต่อยอดเป็น “คนละครึ่งพลัส”

การเปิดโครงการ คนละครึ่งพลัสเฟส 1 สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลต้องการใช้มาตรการทางการคลังเพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่ค่าครองชีพยังสูงกว่ารายได้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานอิสระ พ่อค้าแม่ค้า และผู้มีรายได้น้อย

นอกจากนี้ โครงการยังช่วยส่งเสริมการใช้จ่ายในประเทศ เพิ่มยอดขายให้ผู้ประกอบการรายย่อย และกระตุ้นการใช้ระบบการชำระเงินดิจิทัลให้เป็นนิสัยของประชาชน ถือเป็นนโยบายที่ช่วยทั้ง “คนซื้อ” และ “คนขาย” พร้อมกัน

จากข้อมูลในเฟสแรก รัฐบาลประเมินว่าโครงการสามารถสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากกว่า แสนล้านบาทภายในครึ่งปี ซึ่งช่วยให้เศรษฐกิจท้องถิ่นฟื้นตัวได้อย่างเห็นผล


ผลตอบรับของคนละครึ่งพลัสเฟส 1

หลังเปิดตัวไม่นาน โครงการนี้ได้รับความนิยมสูงสุดในรอบหลายปี คนจำนวนมากแห่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com จนสิทธิเต็มภายในไม่กี่วัน เพราะเห็นว่าช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้จริง โดยเฉพาะในยุคที่รายได้หลายครัวเรือนยังไม่ฟื้นเต็มที่

ในต่างจังหวัด ร้านค้าชุมชนและตลาดสดรายงานยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 30% ขณะที่ผู้ประกอบการรายเล็กในเมืองใหญ่ เช่น ร้านอาหารและคาเฟ่ ได้รับลูกค้าใหม่จากโครงการนี้จำนวนมาก ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างเป็นรูปธรรม


สรุป คนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ได้ถึงวันไหน

สรุปแล้ว คนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 โดยเปิดให้ใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป และจะสิ้นสุดสิทธิอัตโนมัติเมื่อครบกำหนด หากเงินในระบบยังเหลืออยู่จะไม่สามารถนำไปใช้ในเฟสถัดไปได้

ดังนั้น ใครที่ได้รับสิทธิในโครงการนี้ควรรีบใช้ให้ครบภายในสิ้นปี เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเงินในชีวิตประจำวันแล้ว ยังช่วยให้เงินจากภาครัฐหมุนเวียนกลับไปกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนอีกด้วย


ถาม-ตอบ: คนละครึ่งพลัสเฟส 1

ถาม: คนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ได้ถึงวันไหน
ตอบ: ใช้สิทธิได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 หลังจากนั้นวงเงินจะหมดอายุทันที

ถาม: ใช้สิทธิได้กับร้านค้าแบบไหน
ตอบ: ใช้ได้กับร้านค้า OTOP ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านโชห่วย ตลาดสด ร้านบริการในชุมชน และบางแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เข้าร่วม

ถาม: ถ้าใช้ไม่หมดจะเก็บไว้ใช้ปีหน้าได้ไหม
ตอบ: ไม่ได้ เพราะโครงการนี้มีระยะเวลาชัดเจนและสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2568

ถาม: ลงทะเบียนยังทันไหม
ตอบ: หากยังมีสิทธิคงเหลือ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือแอปเป๋าตังได้ทันที แต่สิทธิเต็มเร็วมาก ควรติดตามข่าวจากกระทรวงการคลังอย่างใกล้ชิด

ถาม: คนละครึ่งพลัสต่างจากคนละครึ่งเดิมยังไง
ตอบ: โครงการพลัสเพิ่มวงเงินเป็น 2,000 บาทต่อคน และขยายประเภทการใช้จ่าย เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ และบริการดิจิทัลอื่น ๆ


โครงการ คนละครึ่งพลัสเฟส 1 จึงไม่เพียงเป็นการ “ช่วยจ่ายครึ่งหนึ่ง” แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่างประชาชนกับภาครัฐ ที่ช่วยกันพยุงเศรษฐกิจไทยให้เดินต่อได้ในช่วงเวลายากลำบาก หากคุณยังไม่ใช้สิทธิ อย่าลืมเช็กวันหมดอายุและใช้สิทธิให้ครบก่อนสิ้นปี เพื่อให้ทุกบาทที่รัฐช่วยออกนั้นกลายเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในปี 2568 อย่างแท้จริง.