ในปี 2568 คนไทยจำนวนมากยังเผชิญปัญหาหนี้สินจากบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือเงินกู้รายย่อยที่ดอกเบี้ยสูง ทำให้หลายคนเริ่มมองหาทางออกที่ยั่งยืนอย่าง สินเชื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว 2025 เพื่อจัดการภาระทางการเงินให้อยู่ในที่เดียว ลดดอกเบี้ย และผ่อนจ่ายสบายขึ้น บทความนี้จะพาไปรู้จักประเภทของสินเชื่อรวมหนี้ วิธีสมัคร เอกสารที่ใช้ และคำแนะนำสำคัญก่อนตัดสินใจ
ทำความเข้าใจ “สินเชื่อรวมหนี้ 2568” คืออะไร
สินเชื่อรวมหนี้ คือบริการทางการเงินที่ช่วยรวมภาระหนี้หลายบัญชี เช่น หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคล มาไว้ในบัญชีเดียว โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเดิม จุดประสงค์หลักคือให้ผู้กู้สามารถจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้นและลดภาระการจ่ายในแต่ละเดือน
ในปี 2568 ธนาคารและสถาบันการเงินหลายแห่งได้ออกผลิตภัณฑ์ สินเชื่อปลดหนี้ 2568 และ สินเชื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว 2025 เพื่อช่วยลูกหนี้รายย่อยที่มีภาระหนี้หลายบัญชีให้กลับมามีสภาพคล่องทางการเงิน
ประเภทของ สินเชื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว 2025
1. สินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิต
กลุ่มนี้เหมาะกับผู้ที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ การรวมหนี้ช่วยลดอัตราดอกเบี้ยจาก 18–25% เหลือเพียงประมาณ 10–15% ต่อปี ตัวอย่างเช่น:
-
สินเชื่อ UOB i-Cash มีบริการรวมหนี้บัตรเครดิต ดอกเบี้ยเริ่มต้น 9.99%
-
สินเชื่อ SCB Speedy Loan สามารถรวมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลได้ในวงเงินเดียว
จุดเด่นคือสามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุด 60 เดือน ทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลงอย่างเห็นได้ชัด
2. สินเชื่อรวมหนี้สำหรับมนุษย์เงินเดือน
ธนาคารอย่าง ไทยพาณิชย์, กสิกร, กรุงศรี, CIMB และกรุงไทย เปิดโอกาสให้มนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ประจำสามารถสมัคร สินเชื่อรวมหนี้ 2568 ได้ โดยใช้สลิปเงินเดือนเป็นหลักฐานรายได้
ตัวอย่างเช่น
-
สินเชื่อกรุงศรี iFin สมัครผ่านแอป KMA รวมได้ทั้งหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ดอกเบี้ยเฉลี่ย 9–15% ต่อปี
-
สินเชื่อกรุงไทย Smart Money เหมาะสำหรับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมได้หลายบัญชี และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน
3. สินเชื่อรวมหนี้บ้านค้ำประกัน
เป็นสินเชื่อที่ใช้ บ้านหรือคอนโด เป็นหลักประกัน เหมาะกับคนที่มีทรัพย์สินเป็นของตนเอง แต่มีหนี้หลายบัญชี เพราะจะได้อัตราดอกเบี้ยต่ำมากเพียง 5–8% ต่อปี เช่น
-
สินเชื่อบ้านแลกเงิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สามารถนำไปปิดหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่ออื่นได้
-
สินเชื่อบ้านแลกเงินของกสิกรไทย ผ่อนยาวสูงสุด 30 ปี
ข้อดีคือดอกเบี้ยถูก แต่ข้อควรระวังคือหากผิดนัดชำระอาจถูกยึดหลักทรัพย์
4. สินเชื่อรวมหนี้ผ่านแอปดิจิทัล
ปี 2568 สินเชื่อดิจิทัลมาแรง เช่น แอป FINNIX, LINE BK, TrueMoney Loan, และ Dolfin Money by KBank
แม้จะเป็นสินเชื่อวงเงินเล็ก แต่บางแอปเริ่มมีบริการ สินเชื่อปลดหนี้ 2568 สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีเครดิตหลายแหล่ง เช่น
-
FINNIX Freedom สามารถใช้วงเงินเพื่อปิดบัตรเครดิตอื่นได้ ผ่อนสบาย ไม่ต้องใช้คนค้ำ
-
LINE BK สินเชื่อส่วนบุคคล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรวมยอดบัตรเครดิตหรือสินเชื่อดิจิทัลหลายบัญชีให้เหลือเพียงบัญชีเดียว
5. สินเชื่อรวมหนี้สำหรับผู้ติดบูโร
หลายคนเข้าใจผิดว่าติดบูโรแล้วสมัครไม่ได้ แต่ปัจจุบันมีบางสถาบันที่เปิดให้ผู้มีประวัติค้างชำระสามารถขอสินเชื่อเพื่อรวมหนี้ได้ หากมีรายได้แน่นอนและสามารถแสดงแผนการชำระที่ชัดเจน เช่น
-
สินเชื่อเมืองไทยแคปปิตอล และ ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ มีสินเชื่อทะเบียนรถที่สามารถนำเงินมาปิดหนี้เดิมได้
-
สินเชื่อบ้านแลกเงินของธอส. สำหรับผู้ที่เคยค้างชำระในอดีต แต่ปัจจุบันมีความสามารถชำระคืน
ดังนั้น แม้ “ติดบูโร” ก็ยังสามารถเข้าร่วมโครงการ สินเชื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว 2025 ได้ หากแสดงความสามารถในการชำระอย่างโปร่งใส
เอกสารที่ใช้สมัคร สินเชื่อรวมหนี้ 2568
โดยทั่วไป สถาบันการเงินจะขอเอกสารดังนี้:
-
บัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน (ตัวจริงและสำเนา)
-
สลิปเงินเดือนล่าสุด 1–3 เดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
-
รายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
-
เอกสารแสดงหนี้สิน เช่น ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต หรือสัญญาเงินกู้เดิม
-
สำหรับสินเชื่อมีหลักทรัพย์: เอกสารกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือโฉนดบ้าน
การเตรียมเอกสารให้ครบช่วยเพิ่มโอกาสอนุมัติเร็วและลดขั้นตอนการตรวจสอบ
ขั้นตอนการสมัคร สินเชื่อปลดหนี้ 2568
-
ประเมินหนี้ทั้งหมด: รวบรวมข้อมูลยอดหนี้และดอกเบี้ยทุกบัญชี
-
เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย: เลือกธนาคารหรือผู้ให้บริการที่เสนอเงื่อนไขดีที่สุด
-
ยื่นเอกสาร: ผ่านสาขา เว็บไซต์ หรือแอปธนาคาร
-
รอผลอนุมัติ: ใช้เวลา 3–7 วันทำการ
-
ปิดหนี้เดิมและเริ่มผ่อนใหม่: ธนาคารจะชำระหนี้แทนลูกค้า แล้วลูกค้าผ่อนกับธนาคารที่รวมหนี้แทน
จุดเด่นของการสมัคร สินเชื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว 2025
-
ดอกเบี้ยถูกลง: จาก 20% เหลือเพียง 8–12% ต่อปี
-
รวมทุกหนี้ในที่เดียว: ไม่ต้องจำหลายวันครบกำหนด
-
วางแผนทางการเงินง่ายขึ้น: ผ่อนชำระงวดเดียวต่อเดือน
-
เครดิตฟื้นตัวได้: เมื่อจ่ายตรงเวลาต่อเนื่อง บูโรจะปรับสถานะดีขึ้นภายใน 6–12 เดือน
ข้อควรระวังก่อนสมัคร สินเชื่อปลดหนี้ 2568
-
หากเลือกสินเชื่อที่มีระยะเวลาผ่อนยาวเกินไป ดอกเบี้ยรวมอาจสูงกว่าเดิม
-
บางสถาบันคิดค่าธรรมเนียมปิดบัญชีหรือค่าดำเนินการ
-
ห้ามสมัครสินเชื่อรวมหนี้จากแหล่งเงินกู้นอกระบบ เพราะอัตราดอกเบี้ยอาจสูงเกิน 36% ต่อปี
-
ควรอ่านสัญญาให้ครบ โดยเฉพาะเงื่อนไข “ค่าปิดบัญชีก่อนกำหนด”
ช่องทางติดต่อธนาคารที่ให้บริการ สินเชื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว 2568
-
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB): โทร 02-777-7777 หรือสมัครผ่านแอป SCB Easy
-
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา: โทร 1572 หรือสมัครผ่านเว็บไซต์ krungsri.com
-
ธนาคารกสิกรไทย: โทร 02-888-8888 หรือผ่าน K PLUS
-
ธนาคารออมสิน: โทร 1115 สำหรับโครงการปลดหนี้ประชาชน
-
FINNIX / LINE BK: สมัครผ่านแอปพลิเคชันโดยตรง
คำถาม-คำตอบเกี่ยวกับ สินเชื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว 2025
ถาม: ถ้ามีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ สมัครรวมหนี้ได้ไหม?
ตอบ: ได้ ธนาคารส่วนใหญ่เปิดรับรวมบัตรเครดิตหลายใบในวงเงินเดียว ดอกเบี้ยลดลงทันที
ถาม: ติดบูโรสมัครได้ไหม?
ตอบ: บางสถาบันรับพิจารณา หากมีรายได้แน่นอนและแสดงแผนชำระชัดเจน เช่น สินเชื่อทะเบียนรถ หรือบ้านแลกเงิน
ถาม: ต้องใช้คนค้ำไหม?
ตอบ: ส่วนใหญ่ไม่ต้อง เว้นแต่สินเชื่อที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
ถาม: ผ่อนได้กี่เดือน?
ตอบ: ตั้งแต่ 12 เดือนจนถึง 84 เดือน ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงิน
ถาม: สมัครผ่านออนไลน์ได้ไหม?
ตอบ: ได้แล้วในปี 2568 หลายธนาคารเปิดให้สมัครผ่านเว็บไซต์และแอปได้โดยไม่ต้องไปสาขา
บทสรุป: ทางออกของคนอยากปลดหนี้ในปี 2568
ในยุคที่ค่าครองชีพสูงและรายได้ไม่แน่นอน การบริหารหนี้อย่างมีวินัยเป็นเรื่องสำคัญ สินเชื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว 2568 จึงเป็นเครื่องมือช่วยลดภาระทางการเงินได้จริง หากเลือกธนาคารที่เชื่อถือได้ ดอกเบี้ยต่ำ และมีแผนการผ่อนชำระที่เหมาะสม การรวมทุกหนี้ไว้ในที่เดียวจะช่วยให้คุณค่อย ๆ ฟื้นฟูสถานะทางการเงิน กลับมามีเครดิตที่ดี และเริ่มต้นใหม่อย่างมั่นคงในปี 2025
SEO Hashtag ที่เกี่ยวข้องกับ “สินเชื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว”
#สินเชื่อรวมหนี้2568
#สินเชื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว2025
#สินเชื่อปลดหนี้2568
#สินเชื่อรวมหนี้ธนาคาร
#สินเชื่อบ้านแลกเงิน
#สินเชื่อดิจิทัล
#สินเชื่อบัตรเครดิต
#รวมทุกหนี้เป็นก้อนเดียว
#ปลดหนี้อย่างชาญฉลาด
#รีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิต