เพื่อนแท้เงินด่วน ถูกกฎหมายไหม เช็คบูโรหรือเปล่า

ในโลกที่สภาพเศรษฐกิจไม่แน่นอนและค่าครองชีพเพิ่มขึ้นทุกวัน ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องหันไปพึ่ง “สินเชื่อ” หรือการยืมเงินด่วนเพื่อประคองชีวิต บางคนเลือกกู้กับธนาคาร บางคนหันไปพึ่งไฟแนนซ์ แต่สำหรับอีกกลุ่มหนึ่ง “เพื่อนแท้เงินด่วน” กลายเป็นชื่อที่โผล่ขึ้นมาบนหน้าฟีด—พร้อมกับคำถามคลาสสิกที่วนเวียนอยู่เสมอว่า “เพื่อนแท้เงินด่วน ถูกกฎหมายไหม?”

สารบัญ

บทความนี้ชวนสำรวจให้ชัดว่าผู้ให้บริการรายนี้เชื่อถือได้แค่ไหน เขาเช็คบูโรหรือไม่ หลอกลวงหรือเปล่า อนุมัติยากไหม และที่สำคัญที่สุด: เงินด่วนที่ให้มา มันคุ้มไหมกับดอกเบี้ยและความเสี่ยง


เพื่อนแท้เงินด่วนคือ?

“เพื่อนแท้เงินด่วน” หรือที่บางคนเรียกกันติดปากว่า เงินด่วนโฉนด เป็นชื่อของผู้ให้บริการสินเชื่อภายใต้ระบบพิโกไฟแนนซ์ที่มีสาขาและบริการออนไลน์หลากหลายช่องทาง ตั้งแต่แอปพลิเคชัน LINE Facebook ไปจนถึงเว็บไซต์หลัก

บริการหลักคือการปล่อยสินเชื่อโดยใช้หลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน ทะเบียนรถ หรือในบางกรณีคือสินเชื่อแบบไม่มีหลักทรัพย์ (ส่วนบุคคล) ที่ให้วงเงินไม่เกิน 300,000 บาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยที่มีทั้งแบบต่ำสุด (0.60% ต่อเดือน) และสูงสุดถึง 33% ต่อปี

เพื่อนแท้เงินด่วน ถูกกฎหมายไหม

คำตอบตรงไปตรงมา: ถูกกฎหมาย

ผู้ให้บริการรายนี้อยู่ภายใต้การกำกับของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และธนาคารแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ให้บริการสินเชื่อระดับจังหวัดแบบ “พิโกไฟแนนซ์” (Pico Finance) ซึ่งเป็นนโยบายรัฐที่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินในระบบอย่างถูกกฎหมาย

นั่นหมายความว่า พวกเขาไม่ได้เป็น “เจ้าหนี้นอกระบบ” และไม่สามารถคิดดอกเบี้ยเกินกรอบที่รัฐกำหนดได้ ถ้ามีปัญหา ก็ยังพอมีหน่วยงานรัฐให้ร้องเรียนได้ ต่างจากเจ้าหนี้รายวันหรือแอปเถื่อนที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ

เพื่อนแท้เงินด่วน หลอกลวงไหม?

ในยุคที่มีแอปปล่อยกู้นอกระบบลวงโลกระบาดเต็มอินเทอร์เน็ต คำถามว่า “เพื่อนแท้เงินด่วน หลอกลวงไหม” จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเพื่อนแท้เงินด่วนไม่ได้มีประวัติฉ้อโกงชัดเจน และมีรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในหลายแพลตฟอร์ม เช่น Pantip, Facebook และ TikTok ที่ระบุว่า “ได้เงินจริง” และ “ขั้นตอนไม่ซับซ้อน”

อย่างไรก็ตาม ความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับการมีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ แต่อยู่ที่ “ความโปร่งใส” ในการเปิดเผยรายละเอียดสัญญา เช่น ดอกเบี้ย ค่าปรับ และวิธีคำนวณยอดหนี้สุทธิ ซึ่งผู้กู้ควรตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนลงลายมือชื่อ

เพื่อนแท้เงินด่วน เช็คบูโรไหม?

จุดขายที่สำคัญของเพื่อนแท้เงินด่วนคือการเปิดรับกลุ่มคนที่ถูกธนาคารปฏิเสธ ซึ่งรวมถึงคนที่มีประวัติค้างชำระหนี้ หรือที่เรียกกันว่า เครดิตบูโรติดลบ

คำตอบคือ: ไม่เช็คเครดิตบูโร

บริการของเพื่อนแท้เน้นพิจารณาคุณสมบัติของลูกค้าและหลักทรัพย์ค้ำประกันมากกว่าคะแนนเครดิต คนที่ไม่ผ่านระบบธนาคารจึงมักเลือกใช้ช่องทางนี้เป็นทางเลือกสุดท้าย

แน่นอนว่าแม้จะไม่เช็คเครดิต แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะผ่านง่ายๆ เพราะยังมีเงื่อนไขอื่น เช่น อายุ 20–75 ปี มีหลักฐานรายได้ หรือมีทรัพย์สินที่โอนกรรมสิทธิ์ได้

ยืมเงินเพื่อนแท้เงินด่วน: สมัครยังไง?

กระบวนการ “ยืมเงินเพื่อนแท้เงินด่วน” ไม่ได้ซับซ้อนมาก ผู้สนใจสามารถเลือกสมัครได้ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เช่น

  1. ดาวน์โหลดแอป “เพื่อนแท้เงินด่วน” หรือเข้าเว็บไซต์

  2. กรอกข้อมูลส่วนตัว + แนบเอกสาร (บัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, เอกสารหลักประกัน)

  3. พิจารณาวงเงิน – นัดเซ็นสัญญา

  4. โอนเงินเข้าบัญชีภายใน 24 ชั่วโมง

กรณีที่เอกสารครบถ้วนและตรงตามเงื่อนไขบางรีวิวระบุว่า “รู้ผลภายใน 15–30 นาที” โดยเฉพาะในสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอย่างโฉนดที่ดิน

อนุมัติง่ายไหม

คำถามว่า “เพื่อนแท้เงินด่วน อนุมัติยากไหม?” มีคำตอบที่ต่างกันไปตามคุณสมบัติของผู้สมัคร

  • มีหลักทรัพย์ + เอกสารครบ = อนุมัติง่าย

  • ไม่มีหลักทรัพย์ + รายได้ไม่มั่นคง = อาจช้าหรือไม่ได้รับอนุมัติ

แต่โดยภาพรวม เพื่อนแท้เงินด่วนถือว่า “ให้ผ่านง่าย” กว่าสถาบันการเงินทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ถูกจัดว่า “ความเสี่ยงสูง” สำหรับระบบธนาคาร

แล้วอนุมัติ “กี่วัน”

เพื่อนแท้เงินด่วนโฆษณาว่า “รู้ผลไวใน 15 นาที” – ซึ่งแม้จะฟังดูเร็วเกินจริงสำหรับบางคน แต่จากรีวิวผู้ใช้งานที่ระบุว่า “ได้เงินภายในวันเดียว” หรือ “ไม่เกิน 24 ชม.” ก็ถือว่าสอดคล้องกับการตลาดที่พวกเขานำเสนอ

ในกรณีที่เอกสารไม่ครบ หรือมีปัญหาด้านการโอนกรรมสิทธิ์ อาจใช้เวลานานกว่านั้น และต้องเดินทางไปสาขาใกล้บ้าน

ดอกเบี้ยแพงไหม

ตรงนี้คือประเด็นที่ควรถูกเน้นย้ำ

แม้ว่าเพื่อนแท้จะอยู่ในระบบและไม่เก็บค่าธรรมเนียมแปลกปลอม แต่ “ดอกเบี้ยสูงสุด” ของพิโกไฟแนนซ์สามารถแตะ 33% ต่อปีได้ตามกฎหมาย ซึ่งยังสูงกว่าธนาคารหลายแห่งอยู่มาก

หากกู้ 50,000 บาท ระยะเวลา 12 เดือน ดอกเบี้ยอาจรวมแล้วกว่า 16,500 บาท ขึ้นอยู่กับวิธีคิดดอกและค่าปรับกรณีชำระล่าช้า

ถาม-ตอบ ที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “เพื่อนแท้เงินด่วน” 

Q: เพื่อนแท้เงินด่วน ถูกกฎหมายไหม?

A: ถูกกฎหมาย เพราะเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อในระบบประเภทพิโกไฟแนนซ์ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และธนาคารแห่งประเทศไทย


Q: เพื่อนแท้เงินด่วน หลอกลวงไหม?

A: ไม่มีข้อมูลว่าเป็นมิจฉาชีพ และมีผู้ใช้งานจริงจำนวนมากรีวิวว่าได้รับเงินตามจริง แต่ต้องระวังบุคคลที่แอบอ้างชื่อ “เพื่อนแท้” เพื่อหลอกเรียกเก็บเงินล่วงหน้า — แนะนำสมัครผ่านช่องทางทางการเท่านั้น เช่น เว็บไซต์หรือแอปของบริษัท


Q: เพื่อนแท้เงินด่วน เช็คบูโรไหม?

A: ไม่เช็คเครดิตบูโร ผู้ที่ติดเครดิตบูโรหรือมีประวัติค้างชำระยังสามารถยื่นกู้ได้ โดยเฉพาะสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น โฉนดที่ดินหรือทะเบียนรถ


Q: ยืมเงินเพื่อนแท้เงินด่วนได้อย่างไร?

A:

  1. เข้าเว็บไซต์หรือโหลดแอป “เพื่อนแท้เงินด่วน”

  2. ลงทะเบียน กรอกข้อมูลส่วนตัว

  3. แนบเอกสาร เช่น บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หลักประกัน

  4. รอผลอนุมัติและโอนเงินเข้าบัญชี


Q: เพื่อนแท้เงินด่วน อนุมัติยากไหม?

A: อนุมัติง่ายกว่าธนาคาร โดยเฉพาะผู้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันและเอกสารครบถ้วน หากไม่มีหลักประกันหรือรายได้ไม่แน่นอน อาจอนุมัติยากขึ้น แต่ก็ยังมีสินเชื่อส่วนบุคคลให้เลือก


Q: เพื่อนแท้เงินด่วน กี่วันอนุมัติ?

A: ประกาศว่า “รู้ผลใน 15 นาที” และโอนเงินภายใน 24 ชั่วโมง หากเอกสารครบและใช้ช่องทางออนไลน์ หากยื่นผ่านสาขา อาจใช้เวลา 1–3 วันขึ้นอยู่กับคิวและประเภทสินเชื่อ


Q: ดอกเบี้ยเพื่อนแท้เงินด่วนคิดอย่างไร? แพงไหม?

A: อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 33% ต่อปี ตามกฎหมายพิโกไฟแนนซ์ เช่น ถ้ากู้ 10,000 บาท ดอกเบี้ยประมาณ 2,750 บาทต่อปี — ควรพิจารณาให้รอบคอบและเปรียบเทียบกับแหล่งเงินอื่นก่อนตัดสินใจ


Q: ถ้าไม่มีโฉนดหรือทะเบียนรถ จะกู้ได้ไหม?

A: ได้ในบางกรณี โดยเลือก “สินเชื่อส่วนบุคคล” ที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่จะพิจารณาจากรายได้ ความสามารถในการผ่อน และความเสี่ยงมากขึ้น


Q: ถ้าไม่มีบัญชีธนาคาร จะรับเงินได้ไหม?

A: ต้องมีบัญชีธนาคารชื่อผู้กู้ เพื่อรับโอนเงิน หากไม่มีบัญชีแนะนำให้เปิดบัญชีใหม่ก่อนสมัคร


Q: สามารถผ่อนรายเดือน หรือรายวันได้ไหม?

A: สินเชื่อของเพื่อนแท้เงินด่วนเน้นผ่อนแบบรายเดือน โดยมีแผนชำระหนี้ชัดเจน 6–24 เดือน ทั้งนี้ควรดูรายละเอียดในสัญญาก่อนตกลงรับเงิน


5 วิธีเตรียมเอกสารให้สมัครสินเชื่อ “เพื่อนแท้เงินด่วน” ผ่านง่ายขึ้น

ไม่ว่าคุณจะสมัครสินเชื่อแบบมีหลักประกันหรือไม่มี การเตรียมเอกสารอย่างถูกต้องและครบถ้วนคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้การอนุมัติเร็วขึ้นและเพิ่มโอกาสผ่านสูงขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ให้บริการอย่าง “เพื่อนแท้เงินด่วน” ที่เน้นความรวดเร็วและตรวจสอบเบื้องต้นจากเอกสารเท่านั้น


1. ตรวจสอบความชัดเจนของเอกสารสำคัญ

  • ใช้ บัตรประชาชนตัวจริงที่ยังไม่หมดอายุ และถ่ายสำเนาแบบเห็นรายละเอียดครบ ไม่เบลอ ไม่ขาดมุม

  • ทะเบียนบ้าน ต้องเป็นฉบับปัจจุบัน หากเป็นรูปถ่าย ควรสแกนหรือถ่ายในที่แสงสว่างชัดเจน

  • แนะนำใช้ไฟล์ PDF หรือภาพ JPEG ความละเอียดสูง หากสมัครออนไลน์


2. แนบเอกสารรายได้ หรือหลักฐานการเงินให้ครบ

  • ผู้มีรายได้ประจำ: เตรียม สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน

  • ผู้มีอาชีพอิสระ/ค้าขาย: ใช้ รายการเดินบัญชี (Statement) ย้อนหลัง 3–6 เดือน แทน

  • ยิ่งมีหลักฐานรายได้สม่ำเสมอ ยิ่งเพิ่มโอกาสอนุมัติแม้ไม่มีหลักทรัพย์


3. ถ้าใช้หลักประกัน ต้องแนบเอกสารกรรมสิทธิ์ให้ครบ

  • กู้โดยใช้ โฉนดที่ดิน: ต้องมีสำเนาโฉนดหน้าทะเบียน + หน้าผู้ครอบครองที่ชัดเจน และแนบรูปทรัพย์สินจริง

  • กู้โดยใช้ เล่มทะเบียนรถ: ถ่ายสำเนาหน้าสำคัญ + รูปตัวรถชัดเจน

  • ตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองต้องตรงกับชื่อผู้ยื่นกู้


4. ลงชื่อให้ครบถ้วนในเอกสารทุกหน้า (กรณีสมัครออฟไลน์)

  • เอกสารสมัครกู้หลายชุดจะต้องเซ็นสำเนาถูกต้องทุกหน้า

  • เซ็นชื่อให้ตรงกับลายเซ็นบนบัตรประชาชน

  • หลีกเลี่ยงการใช้ลายเซ็นเล่นหรือเซ็นไม่เหมือนเดิม เพราะอาจถูกปฏิเสธเอกสาร


5. เตรียมข้อมูลให้พร้อมตอบระหว่างการโทรหรือสัมภาษณ์

  • หากทางบริษัทโทรมา สอบถามที่อยู่ รายได้ หรือข้อมูลส่วนตัว ควรตอบให้ตรงกับที่ระบุไว้ในเอกสาร

  • การให้ข้อมูลไม่สอดคล้องกันอาจถูกตีความว่าจงใจปกปิด และส่งผลให้ “อนุมัติล่าช้าหรือถูกปฏิเสธ”

ไขข้อสงสัย ทำไมสมัครสินเชื่อ “เพื่อนแท้เงินด่วน” ไม่ผ่าน?

1. เอกสารไม่ครบ หรือไม่ชัดเจน

  • ข้อนี้พบได้บ่อยที่สุด เช่น แนบแค่รูปบัตรประชาชนหน้าเดียว, ทะเบียนบ้านไม่ชัด หรือโฉนดที่ดินไม่ครบหน้า

  • รูปถ่ายเบลอ สแกนแล้วตัวหนังสืออ่านไม่ได้

  • บางคนลืมเซ็นสำเนาถูกต้องหรือลงลายเซ็นไม่ตรงกับบัตรประชาชน

แนะนำ: ตรวจสอบเอกสารทุกใบว่าครบถ้วน ชัดเจน และมีลายเซ็นทุกหน้า


2. ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และรายได้ไม่มั่นคง

  • หากเลือกสมัครแบบไม่มีหลักทรัพย์ เช่น “สินเชื่อส่วนบุคคล” ทางบริษัทจะพิจารณาจากรายได้แทน

  • หากไม่มีสลิปเงินเดือนหรือ statement เดินบัญชีชัดเจน อาจถูกมองว่า “ความเสี่ยงสูง”

แนะนำ: ถ้าไม่มีทรัพย์ค้ำ ให้เตรียม statement อย่างน้อย 3–6 เดือนเพื่อพิสูจน์รายได้


3. รายได้ไม่พอกับวงเงินที่ขอ

  • เช่น ขอ 100,000 บาท แต่รายได้เดือนละ 8,000–10,000 บาท และไม่มีหลักประกัน

  • แม้ไม่มีเช็คบูโร แต่ระบบจะพิจารณาสัดส่วนรายได้ต่อหนี้ (Debt-to-Income)

แนะนำ: ขอวงเงินให้เหมาะสมกับรายได้ เช่น รายได้ 10,000 บาท ควรกู้ไม่เกิน 30,000–40,000 บาท


4. หลักประกันไม่ผ่านเกณฑ์

  • โฉนดมีภาระผูกพัน (เช่นติดจำนอง) หรือไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของผู้กู้

  • รถที่นำมาใช้ค้ำมีเล่มทะเบียนไม่พร้อมโอน หรือสภาพเก่าจนตีราคาไม่ได้

แนะนำ: ตรวจสอบทรัพย์ก่อนใช้ค้ำว่ามีปัญหาทางกฎหมายหรือกรรมสิทธิ์หรือไม่


5. ข้อมูลในเอกสาร-ใบสมัครไม่ตรงกัน

  • บางคนกรอกข้อมูลในแอปว่าอาชีพค้าขาย แต่ statement ไม่มีรายรับใด ๆ

  • บางกรณีให้ข้อมูลเท็จ เช่น รายได้สูงเกินจริง หรือลืมแจ้งภาระหนี้อื่น

แนะนำ: กรอกข้อมูลให้ตรงกับความเป็นจริง และเอกสารประกอบควรสนับสนุนข้อมูลนั้น


6. ติดต่อกลับไม่ได้ หรือไม่รับโทรศัพท์

  • หลังสมัคร ทางบริษัทจะโทรตรวจสอบตัวตนและนัดเซ็นเอกสาร

  • ถ้าติดต่อไม่ได้ ระบบจะระงับการพิจารณาทันที

แนะนำ: เปิดโทรศัพท์ไว้และตรวจสอบสายเรียกเข้าจากเบอร์ไม่รู้จักในช่วง 1–3 วันหลังสมัคร


7. เคยเบี้ยวหนี้หรือมีประวัติกู้เกินกำหนดกับบริษัท

  • แม้เพื่อนแท้ไม่เช็คบูโร แต่มีฐานข้อมูลของลูกค้าเดิมในระบบ

  • ถ้าเคยค้างชำระ/เบี้ยวหนี้กับเพื่อนแท้หรือบริษัทในเครือ อาจถูกปฏิเสธอัตโนมัติ

แนะนำ: ถ้าเคยมีปัญหา แนะนำเคลียร์ยอดเก่าให้เสร็จ แล้วเก็บหลักฐานไว้ยืนยัน


สรุป: ถ้าไม่ผ่าน ควรทำอย่างไร?

  • ขอทราบเหตุผลโดยตรงจากสาขาหรือช่องทางออนไลน์ของบริษัท

  • ตรวจสอบเอกสาร เตรียมใหม่ให้ชัดเจนกว่าเดิม

  • ขอวงเงินที่สอดคล้องกับรายได้

  • หากจำเป็น อาจเริ่มจากวงเงินน้อยและเพิ่มภายหลังเมื่อชำระตรงเวลา