แอปไหนบ้างที่ยืมเงินได้จริง 2025

ในช่วงเศรษฐกิจที่ทุกคนต้องรัดเข็มขัด การมี “ทางเลือกทางการเงิน” สำรองไว้ใช้เมื่อจำเป็น กลายเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับคนทำงานฟรีแลนซ์ พ่อค้าแม่ค้า หรือใครก็ตามที่อาจไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อจากธนาคารได้ง่าย ๆ

คำถามยอดฮิตคือ “แอปไหนยืมเงินได้จริง?” เพราะในยุคนี้มีทั้งแอปกู้เงินที่ถูกกฎหมาย และแอปหลอกลวงที่มาในคราบของโฆษณาสวยหรู

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 5 แอปกู้เงินที่ “ยืมได้จริง อนุมัติไว ถูกกฎหมาย และใช้งานง่าย” พร้อมข้อมูลบริษัท สินเชื่อที่ให้ เอกสารประกอบ ข้อดี ข้อเสีย และตอบคำถามที่หลายคนสงสัย


1. FINNIX – ยืมง่าย ไม่ต้องมีสลิปเงินเดือน

บริษัท: มันนิกซ์ จำกัด (อยู่ในกลุ่ม SCB X)
ประเภทสินเชื่อ: สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ (นาโนไฟแนนซ์)
วงเงิน: สูงสุด 100,000 บาท
ดอกเบี้ย: ไม่เกิน 33% ต่อปี (ลดต้นลดดอก)
ผ่อน: รายเดือน

เอกสารที่ใช้:

  • บัตรประชาชน

  • แสดงรายได้ผ่านแอป เช่น บัญชีธนาคาร หรือบัญชีรับเงิน

ข้อดี:

  • สมัครผ่านแอปทั้งหมด ไม่ต้องมีคนค้ำ

  • ยืมได้แม้ไม่มีสลิปเงินเดือน

  • รู้ผลใน 5 นาที และถอนเงินได้ทันที

ข้อเสีย:

  • วงเงินอนุมัติขึ้นกับประวัติการเงิน

  • ดอกเบี้ยสูงกว่าสินเชื่อธนาคารทั่วไปเล็กน้อย


2. LINE BK – กู้ผ่านแชต ง่ายในไม่กี่คลิก

บริษัท: ไลน์ ไฟแนนเชียล พลัส จำกัด (ร่วมทุนกับธนาคารกสิกรไทย)
ประเภทสินเชื่อ: สินเชื่อส่วนบุคคล
วงเงิน: สูงสุด 800,000 บาท
ดอกเบี้ย: 18–25% ต่อปี
ผ่อน: สูงสุด 60 เดือน

เอกสารที่ใช้:

  • บัตรประชาชน

  • มีบัญชี LINE BK

  • รายได้ขั้นต่ำ 7,000 บาทต่อเดือน

ข้อดี:

  • ยืมเงินได้ผ่านแอป LINE

  • ไม่ต้องไปธนาคาร ไม่ต้องใช้เอกสารมาก

  • เช็กวงเงินได้ตลอดเวลา

ข้อเสีย:

  • ต้องมีบัญชี LINE BK และผูกกับบัญชีธนาคาร

  • รายได้ไม่ถึงอาจสมัครไม่ผ่าน


3. เงินทันเด้อ – สำหรับคนมีอาชีพอิสระ

บริษัท: เอสซีบี อบาคัส จำกัด (บริษัทในเครือ SCB X)
ประเภทสินเชื่อ: สินเชื่อรายย่อย Nano Finance
วงเงิน: สูงสุด 100,000 บาท
ดอกเบี้ย: ไม่เกิน 33% ต่อปี
ผ่อน: เลือกได้ตามแผนเงินของแต่ละคน

เอกสารที่ใช้:

  • บัตรประชาชน

  • ใช้แอปเป๋าตัง หรือ SCB EASY ยืนยันตัวตน

ข้อดี:

  • อนุมัติเร็วใน 15 นาที

  • เหมาะกับผู้ไม่มีรายได้ประจำ เช่น คนขายของออนไลน์

  • ไม่เช็คเครดิตบูโรในบางกรณี

ข้อเสีย:

  • วงเงินไม่สูง

  • ดอกเบี้ยค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสินเชื่อปกติ


4. TrueMoney ไมโครเครดิต – ยืมเพื่อใช้จ่ายในระบบทรู

บริษัท: แอสเซนด์ นาโน จำกัด
ประเภทสินเชื่อ: ไมโครเครดิต
วงเงิน: สูงสุด 10,000 บาท
ดอกเบี้ย: 0% ในระยะโปรโมชัน / สูงสุด 24% ต่อปี
ผ่อน: จ่ายคืนในแอป

เอกสารที่ใช้:

  • บัตรประชาชน

  • บัญชีทรูมันนี่ที่ยืนยันตัวตนแล้ว

ข้อดี:

  • ไม่มีดอกเบี้ยในช่วงโปรโมชั่น

  • ใช้ซื้อของในร้านค้าในระบบทรูได้

  • สมัครง่ายมาก เหมาะกับมือใหม่

ข้อเสีย:

  • ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้

  • ใช้จ่ายได้เฉพาะในร้านค้าและบริการที่ร่วมรายการเท่านั้น


5. Dolfin Money – กู้เงินวงเงินใหญ่ผ่านมือถือ

บริษัท: เซ็นทรัล เจดี มันนี่ จำกัด (ร่วมทุนระหว่างกลุ่มเซ็นทรัลและ JD Finance)
ประเภทสินเชื่อ: สินเชื่อส่วนบุคคล
วงเงิน: สูงสุด 1,500,000 บาท
ดอกเบี้ย: 9.99–25% ต่อปี
ผ่อน: สูงสุด 60 เดือน

เอกสารที่ใช้:

  • บัตรประชาชน

  • รายได้ขั้นต่ำ 7,500 บาท

  • ยืนยันตัวตนผ่านบัญชีธนาคาร

ข้อดี:

  • วงเงินสูง

  • สมัครออนไลน์ไม่ต้องไปสาขา

  • เช็กสถานะผ่านแอปได้ตลอด

ข้อเสีย:

  • ต้องมีรายได้ประจำ

  • ระบบตรวจสอบเอกสารค่อนข้างละเอียด


ถาม – ตอบ: แอปกู้เงินได้เงินจริงไหม?

Q: แอปพวกนี้กู้เงินได้จริงหรือเปล่า?
A: ได้จริง ถ้าเป็นแอปที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และมีบริษัทจดทะเบียนอย่างชัดเจน

Q: ถ้าไม่มีสลิปเงินเดือนเลย จะสมัครได้ไหม?
A: ได้บางแอป เช่น FINNIX และเงินทันเด้อ ที่ใช้รายได้จากบัญชีธนาคารหรือการโอนเงินประจำแทนสลิปได้

Q: ดอกเบี้ยแพงไหม?
A: สูงกว่าธนาคารปกติ แต่ยังอยู่ในเพดานกฎหมาย เช่น สินเชื่อ Nano Finance ไม่เกิน 33% ต่อปี

Q: แอปแบบนี้ปลอดภัยแค่ไหน?
A: ปลอดภัยถ้าคุณโหลดจาก App Store / Google Play และแอปนั้นมีข้อมูลบริษัทชัดเจน ไม่ขอเรียกเก็บเงินล่วงหน้า

Q: ต้องมีคนค้ำหรือหลักทรัพย์ไหม?
A: ไม่ต้อง ทั้ง 5 แอปข้างต้นไม่มีการใช้คนค้ำประกัน


สรุป

แอปกู้เงิน “ที่ยืมเงินได้จริง” ในปี 2025 มีอยู่จริง และหลายเจ้ามีชื่อเสียง ได้รับการรับรองจากหน่วยงานทางการ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย จุดสำคัญคือ คุณต้องเช็กให้แน่ใจว่าแอปนั้นเป็นของบริษัทที่จดทะเบียนจริง มีใบอนุญาต และเปิดเผยข้อมูลโปร่งใส

แอปกู้เงินเหล่านี้ตอบโจทย์คนที่ต้องการ “เงินด่วน เงินฉุกเฉิน หรือหมุนเงินในช่วงสั้น ๆ” ได้ดี แต่ก็ไม่ควรใช้บ่อยหรือกู้เกินกำลังของตัวเอง