ในช่วงเศรษฐกิจที่ทุกคนต้องรัดเข็มขัด การมี “ทางเลือกทางการเงิน” สำรองไว้ใช้เมื่อจำเป็น กลายเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับคนทำงานฟรีแลนซ์ พ่อค้าแม่ค้า หรือใครก็ตามที่อาจไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อจากธนาคารได้ง่าย ๆ
คำถามยอดฮิตคือ “แอปไหนยืมเงินได้จริง?” เพราะในยุคนี้มีทั้งแอปกู้เงินที่ถูกกฎหมาย และแอปหลอกลวงที่มาในคราบของโฆษณาสวยหรู
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 5 แอปกู้เงินที่ “ยืมได้จริง อนุมัติไว ถูกกฎหมาย และใช้งานง่าย” พร้อมข้อมูลบริษัท สินเชื่อที่ให้ เอกสารประกอบ ข้อดี ข้อเสีย และตอบคำถามที่หลายคนสงสัย
1. FINNIX – ยืมง่าย ไม่ต้องมีสลิปเงินเดือน
บริษัท: มันนิกซ์ จำกัด (อยู่ในกลุ่ม SCB X)
ประเภทสินเชื่อ: สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ (นาโนไฟแนนซ์)
วงเงิน: สูงสุด 100,000 บาท
ดอกเบี้ย: ไม่เกิน 33% ต่อปี (ลดต้นลดดอก)
ผ่อน: รายเดือน
เอกสารที่ใช้:
-
บัตรประชาชน
-
แสดงรายได้ผ่านแอป เช่น บัญชีธนาคาร หรือบัญชีรับเงิน
ข้อดี:
-
สมัครผ่านแอปทั้งหมด ไม่ต้องมีคนค้ำ
-
ยืมได้แม้ไม่มีสลิปเงินเดือน
-
รู้ผลใน 5 นาที และถอนเงินได้ทันที
ข้อเสีย:
-
วงเงินอนุมัติขึ้นกับประวัติการเงิน
-
ดอกเบี้ยสูงกว่าสินเชื่อธนาคารทั่วไปเล็กน้อย
2. LINE BK – กู้ผ่านแชต ง่ายในไม่กี่คลิก
บริษัท: ไลน์ ไฟแนนเชียล พลัส จำกัด (ร่วมทุนกับธนาคารกสิกรไทย)
ประเภทสินเชื่อ: สินเชื่อส่วนบุคคล
วงเงิน: สูงสุด 800,000 บาท
ดอกเบี้ย: 18–25% ต่อปี
ผ่อน: สูงสุด 60 เดือน
เอกสารที่ใช้:
-
บัตรประชาชน
-
มีบัญชี LINE BK
-
รายได้ขั้นต่ำ 7,000 บาทต่อเดือน
ข้อดี:
-
ยืมเงินได้ผ่านแอป LINE
-
ไม่ต้องไปธนาคาร ไม่ต้องใช้เอกสารมาก
-
เช็กวงเงินได้ตลอดเวลา
ข้อเสีย:
-
ต้องมีบัญชี LINE BK และผูกกับบัญชีธนาคาร
-
รายได้ไม่ถึงอาจสมัครไม่ผ่าน
3. เงินทันเด้อ – สำหรับคนมีอาชีพอิสระ
บริษัท: เอสซีบี อบาคัส จำกัด (บริษัทในเครือ SCB X)
ประเภทสินเชื่อ: สินเชื่อรายย่อย Nano Finance
วงเงิน: สูงสุด 100,000 บาท
ดอกเบี้ย: ไม่เกิน 33% ต่อปี
ผ่อน: เลือกได้ตามแผนเงินของแต่ละคน
เอกสารที่ใช้:
-
บัตรประชาชน
-
ใช้แอปเป๋าตัง หรือ SCB EASY ยืนยันตัวตน
ข้อดี:
-
อนุมัติเร็วใน 15 นาที
-
เหมาะกับผู้ไม่มีรายได้ประจำ เช่น คนขายของออนไลน์
-
ไม่เช็คเครดิตบูโรในบางกรณี
ข้อเสีย:
-
วงเงินไม่สูง
-
ดอกเบี้ยค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสินเชื่อปกติ
4. TrueMoney ไมโครเครดิต – ยืมเพื่อใช้จ่ายในระบบทรู
บริษัท: แอสเซนด์ นาโน จำกัด
ประเภทสินเชื่อ: ไมโครเครดิต
วงเงิน: สูงสุด 10,000 บาท
ดอกเบี้ย: 0% ในระยะโปรโมชัน / สูงสุด 24% ต่อปี
ผ่อน: จ่ายคืนในแอป
เอกสารที่ใช้:
-
บัตรประชาชน
-
บัญชีทรูมันนี่ที่ยืนยันตัวตนแล้ว
ข้อดี:
-
ไม่มีดอกเบี้ยในช่วงโปรโมชั่น
-
ใช้ซื้อของในร้านค้าในระบบทรูได้
-
สมัครง่ายมาก เหมาะกับมือใหม่
ข้อเสีย:
-
ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้
-
ใช้จ่ายได้เฉพาะในร้านค้าและบริการที่ร่วมรายการเท่านั้น
5. Dolfin Money – กู้เงินวงเงินใหญ่ผ่านมือถือ
บริษัท: เซ็นทรัล เจดี มันนี่ จำกัด (ร่วมทุนระหว่างกลุ่มเซ็นทรัลและ JD Finance)
ประเภทสินเชื่อ: สินเชื่อส่วนบุคคล
วงเงิน: สูงสุด 1,500,000 บาท
ดอกเบี้ย: 9.99–25% ต่อปี
ผ่อน: สูงสุด 60 เดือน
เอกสารที่ใช้:
-
บัตรประชาชน
-
รายได้ขั้นต่ำ 7,500 บาท
-
ยืนยันตัวตนผ่านบัญชีธนาคาร
ข้อดี:
-
วงเงินสูง
-
สมัครออนไลน์ไม่ต้องไปสาขา
-
เช็กสถานะผ่านแอปได้ตลอด
ข้อเสีย:
-
ต้องมีรายได้ประจำ
-
ระบบตรวจสอบเอกสารค่อนข้างละเอียด
ถาม – ตอบ: แอปกู้เงินได้เงินจริงไหม?
Q: แอปพวกนี้กู้เงินได้จริงหรือเปล่า?
A: ได้จริง ถ้าเป็นแอปที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และมีบริษัทจดทะเบียนอย่างชัดเจน
Q: ถ้าไม่มีสลิปเงินเดือนเลย จะสมัครได้ไหม?
A: ได้บางแอป เช่น FINNIX และเงินทันเด้อ ที่ใช้รายได้จากบัญชีธนาคารหรือการโอนเงินประจำแทนสลิปได้
Q: ดอกเบี้ยแพงไหม?
A: สูงกว่าธนาคารปกติ แต่ยังอยู่ในเพดานกฎหมาย เช่น สินเชื่อ Nano Finance ไม่เกิน 33% ต่อปี
Q: แอปแบบนี้ปลอดภัยแค่ไหน?
A: ปลอดภัยถ้าคุณโหลดจาก App Store / Google Play และแอปนั้นมีข้อมูลบริษัทชัดเจน ไม่ขอเรียกเก็บเงินล่วงหน้า
Q: ต้องมีคนค้ำหรือหลักทรัพย์ไหม?
A: ไม่ต้อง ทั้ง 5 แอปข้างต้นไม่มีการใช้คนค้ำประกัน
สรุป
แอปกู้เงิน “ที่ยืมเงินได้จริง” ในปี 2025 มีอยู่จริง และหลายเจ้ามีชื่อเสียง ได้รับการรับรองจากหน่วยงานทางการ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย จุดสำคัญคือ คุณต้องเช็กให้แน่ใจว่าแอปนั้นเป็นของบริษัทที่จดทะเบียนจริง มีใบอนุญาต และเปิดเผยข้อมูลโปร่งใส
แอปกู้เงินเหล่านี้ตอบโจทย์คนที่ต้องการ “เงินด่วน เงินฉุกเฉิน หรือหมุนเงินในช่วงสั้น ๆ” ได้ดี แต่ก็ไม่ควรใช้บ่อยหรือกู้เกินกำลังของตัวเอง