ในยุคเศรษฐกิจปี 2568 (2025) ที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าเดินทาง หรือค่าเช่าห้อง หลายคนโดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา และวัยทำงานตอนต้น ต่างมองหางาน พาร์ทไทม์ (Part time) เพื่อหารายได้เสริม หนึ่งในร้านยอดนิยมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ Starbucks (สตาร์บัคส์) ร้านกาแฟระดับโลกที่มีสาขาอยู่ทั่วไทย
คำถามที่หลายคนอยากรู้คือ “Part time Starbucks ได้เงินกี่บาท 2568” เพราะหลายคนเชื่อว่า Starbucks จ่ายค่าแรงค่อนข้างดี แถมยังได้สิทธิ์พิเศษ เช่น เครื่องดื่มฟรี สวัสดิการพนักงาน และโอกาสเติบโตในสายอาชีพ วันนี้เราจะพาไปดูรายละเอียดทั้งหมด ทั้งรายได้ต่อชั่วโมง รายเดือน เงื่อนไขการสมัคร และชีวิตจริงของพนักงานพาร์ทไทม์ในร้านกาแฟชื่อดังแห่งนี้
ทำไมคนไทยนิยมทำงาน Part time Starbucks
ในปี 2568 Starbucks ยังคงเป็นแบรนด์กาแฟที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ด้วยบรรยากาศร้านที่ทันสมัย มีระบบการทำงานที่เป็นมืออาชีพ และให้ค่าตอบแทนที่ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับร้านกาแฟทั่วไป
หลายคนเลือกสมัครงานที่นี่เพราะ Starbucks ไม่ได้มองพนักงานเป็นแค่คนชงกาแฟ แต่เป็น “พาร์ทเนอร์ (Partner)” ซึ่งหมายถึงทุกคนคือส่วนหนึ่งขององค์กร และได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
นอกจากนี้ Starbucks ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านที่เปิดรับนักศึกษาทำงานพาร์ทไทม์ โดยจัดตารางเวลาทำงานยืดหยุ่น เหมาะกับคนที่ต้องเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย หรืออยากเริ่มต้นสร้างประสบการณ์ในสายบริการ
รายได้ Part time Starbucks 2568 ได้กี่บาทต่อชั่วโมง
มาถึงคำถามสำคัญที่หลายคนอยากรู้ที่สุด — “Part time Starbucks ได้เงินกี่บาท”
จากข้อมูลปี 2568 Starbucks จ่ายค่าแรงให้พนักงานพาร์ทไทม์เฉลี่ยอยู่ที่ ชั่วโมงละ 50–70 บาท ขึ้นอยู่กับพื้นที่ทำงานและสาขาในแต่ละจังหวัด
พนักงานสาขากรุงเทพฯ และปริมณฑล
สำหรับพนักงานพาร์ทไทม์ในกรุงเทพฯ หรือเขตเมืองใหญ่ Starbucks จ่ายค่าแรงเฉลี่ย ชั่วโมงละ 65–70 บาท ซึ่งถือว่าสูงกว่าร้านกาแฟทั่วไปที่จ่ายราว 45–55 บาท
พนักงานต่างจังหวัด
ในต่างจังหวัด ค่าแรงเฉลี่ยอยู่ที่ 50–60 บาทต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับค่าครองชีพและจำนวนลูกค้าในพื้นที่นั้น ๆ
หากคำนวณแบบทำงานวันละ 6 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 5 วัน พนักงานพาร์ทไทม์ Starbucks จะมีรายได้เฉลี่ยประมาณ
13,000–16,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นรายได้เสริมที่คุ้มค่า โดยเฉพาะสำหรับนักศึกษาที่ทำงานหลังเลิกเรียนหรือวันหยุดสุดสัปดาห์
รายได้เสริมและสวัสดิการที่ Starbucks มอบให้พนักงาน
สิ่งที่ทำให้ Starbucks แตกต่างจากร้านกาแฟทั่วไปคือ สวัสดิการและสิทธิ์พิเศษของพนักงานพาร์ทไทม์ ที่ให้ไม่แพ้พนักงานประจำ เช่น
เครื่องดื่มฟรี
พนักงานพาร์ทไทม์ทุกคนจะได้รับเครื่องดื่มฟรีวันละ 1–2 แก้ว (ขึ้นอยู่กับกะทำงาน) รวมถึงส่วนลดพิเศษเมื่อซื้อสินค้าภายในร้าน
ส่วนลดสินค้าและอาหาร
พนักงานทุกคนได้รับส่วนลดประมาณ 30–40% สำหรับการซื้ออาหาร ขนม หรือเมล็ดกาแฟในร้าน
โอกาสเลื่อนตำแหน่ง
แม้จะเริ่มต้นจากตำแหน่ง พาร์ทไทม์บาริสต้า แต่หากทำงานดี มีความรับผิดชอบ Starbucks เปิดโอกาสให้เลื่อนเป็นพนักงานประจำ และต่อยอดสู่ตำแหน่งหัวหน้ากะ (Shift Supervisor) หรือผู้จัดการสาขาในอนาคต
โบนัสพิเศษและการฝึกอบรม
บางสาขามีโบนัสพิเศษตามยอดขาย และทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมจาก Starbucks Academy เพื่อเรียนรู้ทักษะการบริการและการทำเครื่องดื่มตามมาตรฐานระดับโลก
ลักษณะงานของพนักงาน Part time Starbucks
แม้ Starbucks จะเป็นร้านที่บรรยากาศดีและดูสบาย แต่ในความจริงแล้วการทำงาน Part time Starbucks ถือว่ามีความเข้มข้นและต้องใช้ความอดทนสูง
พนักงานพาร์ทไทม์ต้องสามารถทำได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน ตั้งแต่ต้อนรับลูกค้า รับออเดอร์ ชงกาแฟ เสิร์ฟ ทำความสะอาดโต๊ะ ไปจนถึงจัดเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์
เวลาทำงานจะถูกจัดเป็นรอบ หรือที่เรียกว่า “กะ (Shift)” โดยทั่วไปแต่ละกะจะมีความยาว 4–6 ชั่วโมง และต้องยืดหยุ่นในการทำงานทั้งช่วงเช้า กลางวัน และเย็น
สำหรับบางสาขา เช่น ในห้างสรรพสินค้า พนักงานอาจต้องทำงานถึง 3 ทุ่มหรือถึงเวลาปิดห้าง ซึ่งเหมาะกับนักศึกษาที่เรียนเช้าและว่างช่วงเย็น
เงื่อนไขและการสมัครงาน Starbucks 2568
สำหรับผู้ที่สนใจ สมัครงาน Starbucks 2568 ทั้งแบบพาร์ทไทม์และฟูลไทม์ สามารถสมัครได้ผ่านเว็บไซต์ของ Starbucks Thailand หรือยื่นใบสมัครด้วยตนเองที่สาขาใกล้บ้าน
คุณสมบัติพื้นฐานที่ร้านมักพิจารณาคือ อายุ 18 ปีขึ้นไป มีความรับผิดชอบ รักงานบริการ และสามารถทำงานเป็นทีมได้ดี หากพูดภาษาอังกฤษได้จะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ
Starbucks จะเรียกสัมภาษณ์เบื้องต้น เพื่อดูบุคลิกภาพ การพูดจา และทัศนคติที่เหมาะกับงานบริการ หลังจากนั้นจะมีการฝึกอบรมประมาณ 3–5 วันก่อนเริ่มทำงานจริง
ข้อดีของการทำงานพาร์ทไทม์ที่ Starbucks
แม้รายได้ของพาร์ทไทม์ Starbucks จะไม่สูงเท่าพนักงานออฟฟิศ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ ประสบการณ์และทักษะชีวิต ที่มีค่ามาก
-
ได้ฝึกความอดทนและการบริหารเวลา
-
ได้เรียนรู้การสื่อสารกับลูกค้าทุกระดับ
-
ได้ฝึกทักษะภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริง
-
ได้รู้จักการทำงานเป็นทีมและรับผิดชอบต่อหน้าที่
-
ได้รับประสบการณ์ทำงานจากแบรนด์ระดับโลก ซึ่งเป็นข้อดีเวลาใช้สมัครงานในอนาคต
ปัจจัยที่มีผลต่อรายได้พาร์ทไทม์ Starbucks
แม้ Starbucks จะมีอัตราค่าจ้างที่ชัดเจน แต่รายได้ต่อเดือนของพนักงานแต่ละคนอาจแตกต่างกันตามปัจจัยดังนี้
ชั่วโมงการทำงาน
พนักงานที่ทำงานมากกว่า 5 วันต่อสัปดาห์ หรือรับกะยาว (เช่น 7–8 ชั่วโมง) จะมีรายได้สูงกว่าผู้ที่ทำงานเฉพาะวันหยุด
ทำงานในพื้นที่พิเศษ
สาขาในสนามบินหรือย่านธุรกิจใหญ่ เช่น สีลม สยาม หรืออโศก มักมีค่าตอบแทนสูงกว่าสาขาทั่วไป
โบนัสจากยอดขาย
บางสาขามีระบบโบนัสจากยอดขายหรือรางวัลพิเศษสำหรับพนักงานที่ทำผลงานดี
ชีวิตจริงของพนักงานพาร์ทไทม์ Starbucks
หลายคนอาจมองว่าการทำงานที่ Starbucks เป็นงานเบา เพราะอยู่ในร้านหรู แอร์เย็น และมีลูกค้ามีมารยาท แต่ในความจริง พนักงานต้องยืนทำงานตลอดเวลา ต้องจำสูตรกาแฟหลายสิบชนิด และรับมือกับลูกค้าที่หลากหลายอารมณ์
อย่างไรก็ตาม พนักงานส่วนใหญ่ยอมรับว่า “เหนื่อยแต่คุ้ม” เพราะได้ประสบการณ์ที่มีค่า ได้เพื่อนร่วมงานดี ๆ และมีรายได้เสริมที่มั่นคง ซึ่งตอบโจทย์วัยเรียนหรือวัยเริ่มต้นทำงานได้อย่างดี
ถาม–ตอบเกี่ยวกับ Part time Starbucks 2568
Q: Part time Starbucks ได้เงินกี่บาทต่อชั่วโมง?
A: ปี 2568 ค่าแรงเฉลี่ยอยู่ที่ 50–70 บาทต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับพื้นที่และตำแหน่งงาน
Q: ทำงานวันละกี่ชั่วโมง?
A: โดยทั่วไปทำงานวันละ 4–6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับตารางที่ตกลงกับผู้จัดการสาขา
Q: รายได้เฉลี่ยต่อเดือนเท่าไร?
A: หากทำงานสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 6 ชั่วโมง รายได้เฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 13,000–16,000 บาทต่อเดือน
Q: ต้องมีประสบการณ์ไหมถึงจะสมัครได้?
A: ไม่จำเป็น Starbucks มีการฝึกอบรมก่อนเริ่มงานจริง เหมาะสำหรับผู้ไม่มีประสบการณ์มาก่อน
Q: สมัครงาน Starbucks 2568 ได้ที่ไหน?
A: สมัครได้ทางเว็บไซต์ Starbucks Thailand Careers หรือยื่นใบสมัครด้วยตนเองที่สาขาใกล้บ้าน
สรุป
ในปี 2568 การทำงาน Part time Starbucks ยังคงเป็นหนึ่งในงานยอดนิยมของคนไทย โดยเฉพาะนักศึกษาที่ต้องการหารายได้เสริมระหว่างเรียน ด้วยอัตราค่าจ้างเฉลี่ย 50–70 บาทต่อชั่วโมง และรายได้รวมต่อเดือนราว 13,000–16,000 บาท พร้อมสวัสดิการดีและบรรยากาศการทำงานที่เป็นมิตร
คำตอบของคำถามที่ว่า “Part time Starbucks ได้เงินกี่บาท 2568” คือ ได้มากกว่าที่คิด และคุ้มค่ากับเวลาและประสบการณ์ที่ได้รับ เพราะไม่เพียงแค่ได้เงิน แต่ยังได้เรียนรู้ทักษะชีวิตที่ใช้ได้จริง ทั้งเรื่องการบริการ การสื่อสาร และการทำงานเป็นทีม
Starbucks จึงไม่ได้เป็นแค่ร้านกาแฟ แต่เป็น “โรงเรียนฝึกชีวิต” สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากเติบโตอย่างมืออาชีพและมีรายได้เสริมในยุคที่ทุกบาทมีความหมายมากกว่าที่เคย